ยุติธรรมสู่หมู่บ้าน – สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.การกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อน และติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จ.ชัยภูมิ ภายใต้โครงการ “ยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน” ครั้งที่ 6 ซึ่งได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับผู้แทนโรงเรียน จำนวน 9 โรงเรียน ณ เทศบาล ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
แพทย์เคลื่อนที่ – มูลนิธิสิริวัฒนภักดี โดย เจริญ และ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการมูลนิธิสิริวัฒนภักดี จัดโครงการแพทย์เคลื่อนที่ช้างคลินิกเวชกรรม นำคณะอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและพยาบาลกว่า 160 ท่าน พร้อมด้วยพันธมิตรจากหลายภาคส่วน ลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลมิ่งขวัญ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เพื่อให้บริการตรวจรักษาฟรีแก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อเร็วๆ นี้
มอบทุน – มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ โดย โทชิอากิ มาเอคาวะ ปธ.กก.มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ และ กก.ผจก.บจ.ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ มอบเงินรวม 2,000,000 บาท ให้แก่ 5 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย, สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการ, สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษา และเป็นงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ ประจำปี พ.ศ.2560 ณ บจ.ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ถนนวิภาวดีรังสิต
ประกวดปกหนังสือ – อธิปัตย์ บำรุง ผอ.สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จัดงานประกาศผลและมอบรางวัลการประกวดปกหนังสือสวยสร้างสรรค์ OKMD Book Cover Award 2017 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้สำนักพิมพ์ทั่วประเทศมีโอกาสส่งผลงานปกหนังสือที่มีความโดดเด่นสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจในการผลิตผลงานปกหนังสือสวยสร้างสรรค์นำเสนอต่อผู้อ่าน ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ถนนพระราม 1 เมื่อเร็วๆ นี้
มอบเงิน – นิติพงษ์ ห่อนาค และกลุ่มเพื่อนศิลปิน ผู้ริเริ่มคอนเสิร์ต “ทำให้หมา หาให้แมว Realiparty Concert” ร่วมกับ รัฐรงค์ ศรีเลิศ ปธ.กก.บจ.หนีกรุงคอนเน็ค มอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิ ดิอาร์ค เชียงใหม่ โดย บัณฑิต หมื่นเรือคำ เป็นผู้รับมอบเพื่อจัดซื้อที่ดินสร้างศูนย์พักพิงสุนัขและสัตว์บาดเจ็บ ที่สำนักงาน บจ.หนีกรุงคอนเน็ค เมื่อเร็วๆ นี้
ขยายสถานี – การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง “โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า” กับบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (หรือ EA) เพื่อร่วมกันขยายจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
⦁…หลายวันมานี้ หากใครออกจากกระแสอารมณ์ทั้งของตัวเองและส่วนตัว
ไม่ว่าจะเป็น “สะใจ” หรือ “เศร้าสลด” จากที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องหลบหนีคำพิพากษาออกนอกประเทศไทยได้ ย่อมตระหนักถึงความเป็นจริงว่า
ณ นาทีนี้ทั้ง “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” ไม่อยู่ในประเทศไทย ไม่อยู่รองรับเสียงด่าของ “คนชัง” หรือเสียงเชียร์ของ “คนรัก”
⦁…น่าสนใจที่มีนักวิเคราะห์บางคนชี้ไว้ว่า นับแต่นี้ “ชินวัตร” จะค่อยๆ หายไปจาก “การเมืองไทย” เริ่มจาก “ไม่มีความเคลื่อนไหวใหม่ให้เป็นประเด็น” ขณะ “ข่าวคราวเก่าๆ จะถูกปล่อยวางให้ค่อยๆ ลบเลือนจากความทรงจำของผู้คน” ทั้ง “ความดี-ความไม่ดี” ทั้งปวง จะหลงเหลืออยู่ในความทรงจำ ซึ่งขึ้นอยู่กับ “ความทรงจำของใคร มีทัศนคติแบบใด” แน่นอนส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจาก “เบื่อหน่ายต่อการต่อสู้” แต่ที่มากกว่านั้นน่าจะเป็น ต้องการจ้องดูว่าการเมืองไทยที่ “ไม่มีชินวัตรมาใช้อ้างว่าเป็นเหตุของความยุ่งยากในการบริหารจัดการ” จะดำเนินไปอย่างไร และที่สุดแล้วจะค่อยๆ พิสูจน์ว่า หาก “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ยังเคลื่อนไหวอยู่ “จะมีประโยชน์กับใครมากกว่า” ในสถานการณ์เช่นนี้
⦁…ความชื่นชมยินดีต่อ “รัฐบาล คสช.” เริ่มจากเป็น “พระเอกขี่ม้าขาวมาสยบความวุ่นวายของประเทศที่เกิดจากความแตกแยกทางการเมือง” ดังนั้น “ความสงบเรียบร้อย” จึงถือเป็น “ผลงานที่ประชาชนยอมแลกกับทุกๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในชีวิต” เพียงแต่วันนี้ “บ้านเมืองยังสงบอยู่หรือไม่” คำตอบไม่ใช่แค่ “การชุมนุมประท้วงไม่มีอีกแล้ว” มีหลายเสียงถามถึง “ความไม่สงบอันเกิดจากอาชญากรรมรุนแรงที่เกิดขึ้นถี่และต่อเนื่อง” จะให้ถือว่า “บ้านเมืองสงบ” ได้อย่างไร
⦁…ผลสำรวจของ “นิด้าโพล” ล่าสุด ที่ถามถึงความรู้สึกที่มีต่ออาชญากรรมในปัจจุบันว่ารุนแรงแค่ไหน ร้อยละ 52.32 บอกว่ารุนแรงมาก ขณะร้อยละ 41.52 ตอบว่าค่อนข้างรุนแรง นั่นหมายถึง “ร้อยละ 93.84” ที่เห็นว่า “รุนแรง” มีแค่ร้อยละ 4.32 เท่านั้นที่เห็นว่าไม่รุนแรง โดยมีร้อยละ 1.20 ที่ไม่ตอบ หรือไม่แน่ใจ เมื่อคนเกือบทั้งหมดรู้สึกถึง “ความรุนแรงของอาชญากรรม” ใครที่ยังบอกว่า “สังคมยังสงบเรียบร้อย” คงต้องทบทวนนิยาม “ความสงบ” กันครั้งใหญ่
⦁…และเมื่อมาดูเหตุผลของผู้ตอบแบบสำรวจ “นิด้าโพล” ว่า “อาชญากรรมรุนแรง” ในปัจจุบัน เกิดจากเศรษฐกิจตกต่ำ กฎหมายบ้านเมืองอ่อนแอ-ผู้คนเครียดกันมากขึ้น คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่ตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย ว่า “ประเทศไทยกำลังมีปัญหาหนักในทุกด้าน” ซึ่งหากจะถูกโยงไปเป็นเรื่อง “ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล” คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยนัก
⦁…การเมืองยุค สุเทพ เทือกสุบรรณ พัฒนาตัวเองจาก “นักการเมือง
ที่มีดีบ้างไม่ดีบ้าง” เป็น “ปกติของปุถุชน” มาเป็น “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” มีกระแสว่าเพื่อนำพายุคสมัยไปสู่เป้าหมายที่วางกันไว้ น่าจะมีการตั้ง “พรรค กปปส.” ขึ้นมาด้วยนโยบายชัดเจนว่า “สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ ด้วยเหตุผลว่า “ต้องการสานปฏิรูปประเทศให้ต่อเนื่อง” โดยพรรคนี้จะเป็นพรรคที่เป็น “คู่แข่งตัวจริงของพรรคที่ยืนหยัดในหลักการประชาธิปไตยแบบสากล”
⦁…และความน่าสนใจจะมาอยู่ “พรรคประชาธิปัตย์” ภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าจะยืนในหลักการ “ผนึกร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย” สู้ หรือ “เดินตามน้ำ” ร่วมกับ “พรรค กปปส.” สนับสนุน “อำนาจนิยมที่นำโดยกองทัพ” โดยข้ออ้างเดียวกันคือ “ปฏิรูปให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ก่อน”
⦁…อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นคำถามที่รอคำตอบหาก “การเลือกตั้ง” จะเกิดขึ้นจริง แต่สำหรับความเป็นไปที่ไม่รู้อนาคต “การคืนอำนาจให้ประชาชน” จะเกิดขึ้นจริงเมื่อไร หนทางที่ดีกว่าของนักการเมืองจากทุกพรรค จากทุกฝ่าย คือ “เข้าหาประชาชน” โดยเฉพาะระดับล่าง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพื่อเป็นปากเป็นเสียงแทนว่า “อนาคตและโอกาสของพวกเขาจะเป็นอย่างไร และจะฝากความหวังไว้ที่ใครได้บ้าง”
ชโลทร
