บทนำมติชน – ใช้ยาถูก-ยาผิด

เริ่มมีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจที่ใช้กับประเทศไทยในขณะนี้ว่าเราเดินมาถูกทางแค่ไหน ทั้งนี้เพราะนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเมือง มีการปิดเมืองกรุง เป็นผลให้เศรษฐกิจชะงักงัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะที่เป็น ผบ.ทบ.ได้ยึดอำนาจ หลังจากนั้นได้ใช้วิธีปล่อยเงินจำนวนมหาศาลลงไปยังรากหญ้า และเร่งรัดจัดทำงบประมาณประจำปี 2558 ขณะที่ฝ่ายเศรษฐกิจที่นำโดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ในช่วงต้นคิดวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืน โดยนำเสนอเศรษฐกิจดิจิตอล การค้าชายแดน และอื่นๆ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นคืน พร้อมทั้งประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยตัวเลขที่แลดูแล้วอุ่นใจ

ต่อมาการดำเนินการทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ตัวเลขเศรษฐกิจไทยยังเป็นปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีดึงเอานายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาคุมนโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยนายสมคิดเสนอนโยบายแจ่มชัด คือ ทุ่มงบประมาณกระตุ้นรากหญ้า ฟื้นเศรษฐกิจในชุมชนหมู่บ้านให้คึกคัก เน้นช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี ผลักดันโปรเจ็กต์ยักษ์โดยเฉพาะการลงทุนระบบราง มุ่งเปิดนิคมอุตสาหกรรมที่ชายแดน จัดทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ออกเดินสายโรดโชว์ไปยังประเทศต่างๆ ชักชวนให้มาลงทุน

การดำเนินการทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงบัดนี้ปรากฏว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจยังอยู่ในอาการซึม สภาพการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังน่าห่วง เพราะไม่เพียงแค่ตัวเลขส่งออกกับประเทศยักษ์ใหญ่ในโลกเท่านั้นที่ลดลง ตัวเลขการส่งออกกับประเทศใกล้เคียงที่เคยเติบโตโดดเด่นก็ยังหดตัวลงมาอีกด้วย ภาครัฐหวังการเติบโตของการท่องเที่ยว ภาคธุรกิจหวังเม็ดเงินลงทุนจากรัฐบาล แต่รัฐบาลก็มีรายได้ไม่มากนัก ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจทั้ง คสช.และ ครม. รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ควรประเมินผลกันเองว่า ที่ผ่านมาใช้ยาถูกหรือใช้ยาผิด มาตรการต่างๆ แก้ได้ตรงกับปัญหาหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีกว่าปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image