กรรมการปฏิรูปตำรวจฯยังไร้ข้อสรุป ‘เสรี’ ชี้ ตร.ยังมองมุมเดิม ‘บุญสร้าง’ นัดถกอีก

“กรรมการปฏิรูปตำรวจฯ” ยังไร้ข้อสรุป “พล.อ.บุญสร้าง” นัดถกต่อ 6 ก.ย.นี้ เชื่อทำงานทันตามกรอบเวลา ด้าน “เสรี” รับ อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเคาะสรุปประเด็น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 กันยายน ที่รัฐสภา พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า วันนี้พูดคุยกันหลายเรื่อง ยังไม่ได้สรุปประเด็นใด และจะประชุมต่อในวันที่ 6 กันยายนนี้ โดยเฉพาะเรื่องการกระจายอำนาจ โดยเราต้องมีข้อพึงระวัง เพราะการเปลี่ยนแปลงอาจจะทำให้เกิดช่องโหว่ หรือช่องว่างหากไม่ระวัง สิ่งที่ดีที่มีอยู่เดิมอาจหายไป หรือสิ่งใหม่ที่เข้ามาอาจจะไม่ดี ดังนั้นการทำงานต้องคำนึงว่าของดีๆ ที่มีอยู่เดิมต้องไม่หายไป และได้ของดีๆ ใหม่ด้วย

“เหมือนกับช้างเดิน ที่ต้องเอาเท้าหยั่งไปข้างหน้าก่อน หากไปไม่ได้ ก็ต้องถอยหลัง เหมือนกับองค์กรใหญ่ๆ หากพลาดพลั้งไปจะทำให้หกคะเมน ซึ่งอาจดูแลไม่รอบคอบ ดังนั้นการทำงานต้องระมัดระวัง ซึ่งในวันที่ 6 กันยายนนี้จะมาพูดคุยกันต่อ ทั้งนี้ยอมรับว่ามีความเห็นที่ต่างกัน ต้องดูว่าฝ่ายไหนมีความเห็นที่ดีกว่า ต้องยอมรับกันเอง ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีความเห็นแตกต่างกันออกไป ตำรวจหลายๆ ท่านก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงและมีข้อเสนอดีๆ ออกมา” พล.อ.บุญสร้างกล่าว

เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งเพราะตำรวจไม่ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ไม่ใช่แสดงการไม่ยอมรับ แต่ตำรวจก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงและมีข้อเสนอดีๆ ที่ผ่านมาระบบเดิมตำรวจก็ทำมาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องระวัง ที่ทำดีอยู่แล้วหากเปลี่ยนเป็นระบบใหม่แล้ว ข้อดีอาจจะหายไปเช่น คดีสำคัญๆ หากกระจายอำนาจแล้วต้องเข้มแข็งในระดับบนมีอยู่หรือไม่ เมื่อลงไปแล้ว ไปจัดการต่างๆ ให้เสร็จภายในไม่กี่วัน ถ้าตำรวจพลาดรับไปเต็มๆ จะจัดการได้หรือไม่ ฉะนั้นการปฏิรูปเมื่อกระจายลงไปแล้ว ต้องสามารถปฏิบัติภารกิจให้ได้ รวมถึงเรื่องความทันสมัยที่ต้องเกิดขึ้นในเรื่องของอนาคตไม่เฉพาะเรื่องไอที โดยเราต้องคิดทุกอย่างให้เป็นระบบ ทั้งนี้การแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลจะแต่งตั้งโดย ผบ.ตร. และมีกรรมการร่วมกันพิจารณาส่วนที่เหลือจะกระจายลงไปในพื้นที่ระดับล่าง โดยพิจารณาทั้งความอาวุโส ผลงาน ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนคดีที่ต้องรับผิดชอบมาก่อนนั้นต้องไปพิจารณาอีกครั้ง

Advertisement

“กรอบการทำงานต้องทำให้ทันเวลา เพราะบางเรื่องมีความก้าวหน้าไปมาก ทั้งนี้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในวงการตำรวจ คือการรับใช้ประชาชน ทำอย่างไร ถึงจะเกิดการบริการที่ประชาชนประทับใจ โดยเราจะเน้นที่โรงพัก เพราะมีปัญหาอยู่มาก เรื่องของตำรวจทุกเรื่องเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งหมดไม่ว่าจะการแต่งตั้ง ผบ.ตร. หรือระดับนายพล หากแต่งตั้งกันผิดจะทำให้เดือดร้อนกันทั่วหน้า แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้สึกว่าตำรวจพึ่งได้ และไม่ทำอะไรให้รู้สึกว่าไม่เป็นการให้เกียรติแต่คิดว่าตอนนี้ตำรวจก็ดีขึ้น หากยังไม่ดีก็บอกมาได้” พล.อ.บุญสร้างกล่าว

ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ กรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ เพราะที่ประชุมอยากเห็นการปฏิรูปเพื่อให้การทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการกระจายอำนาจที่คณะอนุกรรมการฯเสนอวางแนวทางไว้เบื้องต้น โดยเฉพาะงานบุคคล อำนาจหน้าที่ ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจไปสู่ส่วนท้องถิ่นคิดว่า จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมที่จะบริหารจัดการงานของตำรวจในพื้นที่ ทั้งเรื่องการกำหนดพฤติกรรม หรือการทำหน้าที่ของตำรวจในแต่ละส่วนที่มีผลกระทบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เนื่องจากในท้องถิ่นค่อนข้างมีความสำคัญ ส่วนแนวทางดังกล่าวยังไม่มีการกำหนดขอบเขต ทั้งภูมิภาคและจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องอำนาจ จะตัดไปให้ส่วนจังหวัดดูแลหรือไม่นั้น ในเบื้องต้นมองว่าส่วนของจังหวัดสามารถกำหนดงานในแต่ละพื้นที่หรือส่วนของเทศกิจ หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือแม้แต่งานของตำรวจว่าจะกำหนดบทบาทหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ หากให้จังหวัดมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลงานของตำรวจในจังหวัดนั้น มีหลายสถานีตำรวจอาจจะเอาตำรวจที่อยู่ในแต่ละภาคกระจายไปอยู่ในจังหวัดเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายเสรีกล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้มีเพียงการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ได้ขัดแย้ง แต่มีการแสดงความเห็นที่หลากหลาย โดยเฉพาะตำรวจมีมุมมองว่าหน้าที่เดิมมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว แต่ส่วนของอนุกรรมการฯมองว่าเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น โดยในวันที่ 6 กันยายนนี้จะมีการประชุมเพื่อเร่งงานให้ทันกรอบที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯยอมรับว่ามีความกังวลว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความชัดเจน 2-3 ประเด็นเพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความเป็นตำรวจของประชาชนและประชาชนพึงพอใจ จะออกมารูปแบบหรือลักษณะไหน เป็นตำรวจที่ไม่สร้างความเดือดร้อนและปัญหา ตอนนี้ยอมรับว่าการปฏิรูปอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อยู่ระหว่างการสรุป แต่ยังไม่เคาะในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เราต้องพูดความจริงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร มิเช่นนั้นจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ หากเราโลกสวยพูดจาดีๆ เยินยอกันไปมา หรือเกรงอกเกรงใจกันมากเกินไป ผลที่ออกมาคืองานจะไม่ประสบความสำเร็จและจะเกิดความเสียหาย ช่วงเวลานี้คือการนำข้อมูลต่างๆ มาถกแถลงให้ตกผลึกและเห็นปัญหาที่แท้จริง เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการให้เกิดการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงที่มีความชัดเจน คือ ไม่ใช่การปะผุ หรือปรับปรุง แต่เป็นการผ่าตัดและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อประโยชน์ตกอยู่กับประชาชน โดยเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image