09.00 INDEX มุมมองคสช. มุมมองรัฐบาล ประชามติรัฐธรรมนูญ”ฉลุย”

แฟ้มภาพ

09.00 INDEX

มุมมองคสช. มุมมองรัฐบาล
ประชามติรัฐธรรมนูญ”ฉลุย”

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เมื่อเห็น “ปฏิกิริยา”ของนักการเมืองต่อ

“ร่าง”รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ล้วน “เมิน” ท่าที “นักการเมือง”

นักการเมืองเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ถ้าพูดถึงสัดส่วนก็ไม่มากถ้าเทียบกับประชาชนทั้งประเทศ

ADVERTISMENT

เป็นท่าทีจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผมไม่กังวล ผมไม่เคยเป็นห่วง ไม่ว่าอะไรถ้าจะจับมือกัน ยังไงก็ได้ เราพยายามทำเต็มที่

เป็นท่าทีจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ยิ่งเมื่อผู้สื่อข่าวป้อนประเด็นว่า มีแนวโน้มที่พรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคจะจับมือกัน “คว่ำ” ในชั้นประชามติ

ท่าที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่ง “กร้าว”

พรรคการเมืองเหล่านี้มีคนกี่คน ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินดีกว่า อย่าให้ 2 พรรคนี้เป็นคนตัดสินเลย

ยิ่งฟังความเห็น นายวันชัย สอนศิริ ประกอบ

เมื่อเวลาทำประชามติเสียงประชาชนจะเป็นตัวชี้ขาดไม่ใช่เสียงวิจารณ์ของคนพวกนี้ เป็นเพียงเสียงขู่เท่านั้น จริงๆแล้วนักการเมืองอยากเลือกตั้งเพราะหากรัฐธรรมนูญถูกคว่ำการเลือกตั้งต้องยืดออกไป

ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า เหตุปัจจัยอะไรทำให้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ให้ความสนใจต่อนักการเมือง ไม่ให้ความสนใจต่อพรรคการเมือง

มากด้วย “ความมั่นใจ”

เป็นความมั่นใจว่า “ประชาชน” จะอยู่ข้างเดียวกับคสช. จะอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาล และจะอยู่ข้างเดียวกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

“ความมั่นใจ” นี้สำคัญ “ความมั่นใจ”นี้ ทรงความหมาย

หากมองอย่างเปรียบเทียบ ระหว่างห้วงที่ “ร่าง”รัฐธรรมนูญฉบับ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ปรากฏ กับห้วงที่ “ร่าง”รัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ปรากฏต่างกันต่อ”ร่าง”รัฐธรรมนูญฉบับ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ

ไม่มีความมั่นใจว่าจะผ่านในชั้น “ประชามติ”

จึงดำเนินการให้ “คว่ำ”

ประโยชน์ 1 สามารถยืด “โรดแมป” จากปี 2559 มาเป็นปี 2560 ได้อย่างชอบธรรม

ประโยชน์ 1 กระบวนการ”ร่าง”มาอยู่ในมือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์

ในบรรดา “เนติบริกร” ที่เข้ามารับใช้งาน “รัฐประหาร”

ต้องถือว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ดำรงอยู่อย่าง “เก๋าเกม”

เก๋ากว่า นายวิษณุ เครืองาม เก๋ากว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ

เพียงลีลาการนำเสนอ “สโลแกน” ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับ “ปราบโกง”

ก็ต้องยอมรับว่า “เฉียบขาด” และ “ดุดัน”

ในอีกด้านหนึ่งจึงเท่ากับ “กวาดต้อน” ขบวนการคัดค้าน ต่อต้านให้ไปรวมอยู่กับบรรดา “คนโกง” ทั้งหลายโดยปริยาย

ไม่ว่าจะเป็น “เพื่อไทย” ไม่ว่าจะเป็น”ประชาธิปัตย์”

ขณะเดียวกัน คะแนนและความนิยมที่ทะยานไปอยู่หลักร้อยละ 99.5 โดยการสำรวจของ “สำนักงานสถิติแห่งชาติ” ย่อมสดสวยอย่างยิ่ง

สดสวยพอที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมั่นใจ

สดสวยพอที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเดินหน้าฝ่าฟัน

เป็นการเดินหน้าฝ่าฟันในขณะที่การจับมือระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยเสมอเป็นเพียงเรื่อง “เพ้อฝัน”

อย่างน้อย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็มาอยู่กับ”คสช.”อยู่แล้ว

เสียงของพรรคการเมือง 2 พรรคขนาดใหญ่จึงย่อม

กระจัดกระจาย ไร้พลัง มิอาจ ต้าน “ร่าง”รัฐธรรมนูญได้

“ประชามติ” ผ่านฉลุย