ข้อครหามีการซื้อขายเก้าอี้ในการแต่งตั้งตำรวจ ไม่ใช่เรื่องใหม่
ใช่ข้อครหาปรามาสที่เคยได้ยินได้ฟังในครั้งแรก
ย้อนไปช่วงปี พ.ศ. 2550-2551-2552ต่อเนื่องกัน ปมซื้อขายเก้าอี้ในการแต่งตั้งตำรวจสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างอื้ออึง ตัวละครผู้กุมอำนาจรัฐ มีอำนาจหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนั้นต้องออกมาปัดพัลวัล
ตอนนั้นมีการตั้งคณะกรรมการภายนอกตรวจสอบ ผลออกมาทำนองว่าการซื้อขายตำแหน่งเป็นข้อกล่าวหาร้ายเท่านั้น เรื่องซื้อๆขายๆไม่มีอยู่จริงในองค์กรสีกากี
ผ่านมาครึ่งทศวรรษ ประเด็นนี้ถูกตีปี๊ปอีกครั้ง เมื่อเป็นคดี!
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) โดย“บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้ “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามหมณกุล รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคงและด้านกฎหมายและสอบสวน รองผบ.ตร.รุ่นพี่สายเดียวกัน เป็นโต้โผดำเนินคดี “บิ๊กตุ้ม”พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นายทหารคนสนิทที่เคยเป็นเสมือนตัวแทนของ “ป๋า” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่การสืบสวนและสอบสวนพบว่ามีการแชตข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ กล่าวหา อดีตนายทหาร ยศ “พล.อ.” เกี่ยวข้องซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ปมซื้อขายเก้าอี้รอบนี้ เกิดจากแชทข้อความไพรเวท ในกลุ่มบิ๊กกรรมมาธิการ ผ่านแอพพลิเคชั่นยอดนิยม ใช้ชื่อกลุ่มเป็นชื่อนายทหารคนดัง เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ปรากฎข้อความ จากผู้ใช้ชื่อใน LINE ตรงกับนายทหารคนดัง ข้อความทำนองว่า มีอดีตนายทหาร ยศ พล.อ.ซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ แชทไม่ลับในกลุ่มเฉพาะปรากฏมาพักใหญ่ ข้อความหลุดเข้าหู เข้าตาผู้ถูกพาดพิง
ปมซื้อขายตำแหน่งตีราคา เก้าอี้สีกากีในครั้งนี้จึงไม่ธรรมดา
ไม่ธรรมดาที่ตัวละครในเรื่องนี้ ไม่ธรรมดาทั้งเนื้อหาที่กล่าวหา
ทันทีที่รู้ ว่าตัวเองถูกพาดพิงในกลุ่มบิ๊ก ผู้ถูกเอ่ยนามอาการควันออกหู
เมื่อ “บิ๊ก”ถูกกล่าวหา น้องรักจึงรับช่วงงานตามอำนาจหน้าที่
ชุดสืบสวนสอบสวนทำงานลับๆมาระยะหนึ่ง เข้าตรวจสอบกรุ๊ปเอ็กซ์คลูซีพ อักษรย่อ P. ตรวจสอบทางเทคนิค กระทั่งยืนยันได้ว่า กรุ๊ปไลน์ดังกล่าวมีจริง และผู้ใช้งานหรือยูสเซอร์ในชื่อไลน์ที่โพสต์ข้อความพาดพิง “บิ๊ก”เป็นหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของบิ๊กทหารจริง ชุดสอบสวนเชิญสมาชิกกรุ๊ปไลน์มาสอบสวน ประกอบหลักฐานพร้อมดำเนินคดี
ทว่า “บิ๊ก”แตะเเบรกบอกน้องรักค่อยก่อน
เก็บเรื่องเงียบอยู่พักหนึ่ง
เรื่องเพิ่งมาแดง เมื่อ “บิ๊กปู” ให้ข่าวออกหมายเรียก “พล.ร.อ.พะจุณณ์” เนื่องจากแชตข้อความเท็จกล่าวหาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวหาการแต่งตั้งตำรวจ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีการกระทำผิดจริง จึงดำเนินคดีฐานผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และยืนยันเรื่องนี้ไม่มีการเมือง
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ทีมสอบสวนของพล.ต.อ.ศรีวราห์ เผยว่าคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ได้มีข้อความปรากฎอยู่ในกลุ่มไลน์ของอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั้งสิ้น 24 คน ระบุว่ามีการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจในระดับต่าง ๆ ผบ.ตร.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อความดังกล่าวจนพบว่า มีการกระทำความผิดจริง จึงได้มอบให้พนักงานสอบสวนของ ปอท. รับไปดำเนินคดี
“จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่ามีการกระทำความผิดเรื่องของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีพนักงานสอบสวนของ ปอท. จึงรับคำร้องทุกข์ไว้ ตามคดีอาญาที่ 10/2559 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 ข้อหา นำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยมีผู้เสียหายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งสิ้น 8 ราย โดยข้อมูลที่สอบสวนมีความชัดเจนและเชื่อได้ว่าบุคลที่โพสต์ข้อความนั้นมีความผิด พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้มีพบในวันที่ 10 มีนาคม 2559 ในเวลา 10.00 น. โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐานทางเทคนิคอีกเล็กน้อย”พล.ต.ต.ชยพล กล่าว
ต่อมา “บิ๊กแป๊ะ” มอบ “เฮียปู”ดำเนินคดี “บิ๊กตุ้ม” ฐานหมิ่นประมาทด้วยอีกข้อหา
พล.ร.อ.พะจุณณ์ เคยเป็นสัญลักษณ์ของ “ป๋า” นาทีนี้ภาพคนของป๋าก็ยังติดตัว “บิ๊กตุ้ม”
“บิ๊กตุ้ม”เป็น สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษและนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 หรือตท.12-ร่วมรุ่นกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จบโรงเรียนนายเรือรุ่นที่ 69
สมัยเป็นประธานในคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นหัวขบวนในการผ่าตัดองค์กรตำรวจ
เมื่อปีที่แล้ว พล.ร.อ.พะจุณณ์ เสนอแนวคิดปฏิรูปตำรวจแบบถึงกึ๋น แนวทางหนึ่งคือแยกพนักงานสอบสวนออกจากตำรวจ แยกหน่วยงานที่ไม่ใช่งานหลักของตำรวจไปให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง
เกิดวิวาทะระหว่างตำรวจ อดีตตำรวจกับอดีตทหารเรืออยู่พักใหญ่ แต่แนวคิดแยกพนักงานสอบสวนก็ถูกเหยียบเบรกอย่างเป็นทางการด้วยคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่7/2559 ให้ปรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน
ปิดประตูตายแนวคิดแยกงานสอบสวนออกจากตำรวจ
แนวคิดของ อดีตนายทหารเรือ อดีตคนสนิทของป๋า ถูกปฏิเสธ และตอกกลับแรงจากเครือข่ายพลังอำนาจจับมือจากกลุ่มบิ๊กสีกากี
เมื่อปรากฎแชตลับ แชตหลุด กล่าวหาที่ผิดกฎหมาย กระบวนการดำเนินการตามขั้นตอนจึงเปิดฉากขึ้น
ทว่าด้วยบารมีที่เกี่ยวพัน ก่อนเดินหน้าทำตามกฎหมาย “บิ๊กสีกากี” เดินหาผู้มีบารมี เอ่ยทำนองขออนุญาตดำเนินการตามกฎหมาย ปกป้องศักดิ์ศรีองค์กรที่ถูกว่าร้าย ปกป้องผู้ถูกเอ่ยอ้าง
ได้รับสัญญานชัดจากผู้มากบารมีบอกว่า “ว่าไปเลยลูก”
เช่นนี้เพราะไม่อาจปฏิเสธ หรือ เช่นนี้เพราะมีสัญญาณว่ากำลังมีผู้ถูกโดดเดี่ยว !?
วันนี้ 10 มีนาคม พล.ร.อ.พะจุณณ์ มาตามนัด พร้อมกองเชียร์กลุ่มกปปส. บิ๊กตุ้มบอกว่า “ป๋าอวยพรให้โชคดี”
คดีนี้กำลังว่าไปตามกระบวนการ
ทว่าคำครหาปฐมเหตุแห่งคดี พ.ร.บ.คอมฯครั้งนี้ เท็จ-จริงอย่างไร กระบวนการในการแต่งตั้งสีกากีที่จะถีงในเร็ววันนี้เหล่าสีกากีจะเห็นเชิงประจักษ์
