มหาดไทย สั่งสอบปมขัดแย้ง นายกเทศมนตรี ด่ากราด ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์

“มท.1” เผย ตั้งคกก.สอบปมขัดแย้ง นายกเทศมนตรีท่าเสา-ผวจ.อุตรดิตถ์แล้ว ย้ำคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นของ คสช. ไม่ใช่ผวจ. ด้านปลัดมท. ลั่น ต้องรายงานผลกลับมาใน 30 วัน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 กันยายน ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่นายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา นายกเทศมนตรี ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กำลังยืนตำหนินายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล ปล่อยเงินกู้ เรียกเก็บเงินผู้รับเหมา ด้วยอารมณ์โมโหฉุนเฉียวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน สภ.อุตรดิตถ์ ว่า เท่าที่ทราบในขณะนี้ เหตุที่นายกเทศมนตรีต.ท่าเสา ไปใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้คำสั่งตามมาตรา 44 หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งชื่อที่ปรากฏก็ทราบดีว่าเป็นเรื่องของมาตรา 44 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นผู้ออกคำสั่ง ไม่ใช่ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์เป็นคนออกคำสั่ง ดังนั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิดว่าผู้ว่าฯอุตรดิตถ์เป็นผู้ออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

“น่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันในเรื่องนี้ เพราะ คสช.เป็นผู้ออกคำสั่งมาตรา 44 ให้นายกเทศมนตรีท่าเสา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ผมเองก็ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุใดที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นเรื่องคำสั่ง คสช.อย่างไรก็ตาม ทางปลัดกระทรวงมหาดไทยได้รายงานผมแล้วว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เอาตามที่นายกเทศมนตรีท่าเสาคิดเอาว่าผู้ว่าฯอุตรดิตถ์เป็นคนกลั่นแกล้งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มันไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของคำสั่ง คสช.” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ด้านนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวกรณีที่มีการปรากฏคลิปนายกเทศมนตรี ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ตรวจสอบนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิษถ์ เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล และมีบุคคลใกล้ชิดปล่อยเงินกู้ เรียกเก็บเงินจากผู้เหมาก่อสร้างว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เดินทางมาพบและชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงด้วยวาจากับตนเองแล้ว แต่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยจะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยในช่วงเย็นวันนี้ (14 กันยายน) ตนจะลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อรายงานข้อสรุปกลับมาภายใน 30 วัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image