เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่เสนอให้มี ส.ว.สรรหาในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี โดยมีการจับตาว่า ส.ว.สรรหาตามข้อเสนอดังกล่าวนั้น จะคล้ายรูปแบบ ส.ว.ในสมัยปี 2521 ว่า ส.ว.ปี 2521 มาจากการแต่งตั้งทั้งหมดโดยนายกรัฐมนตรีในวันที่มีการเลือกตั้ง ซึ่ง ส.ว.ปี 2521 มีอำนาจร่วมประชุมนัดสำคัญๆ ทั้งหมด ทั้งการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคง กฎหมายด้านเศรษฐกิจ กฎหมายด้านสังคมสามารถพิจารณาร่วมลงมติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ หมายความว่าถ้า ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล รัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้ อีกทั้งนายกฯต้องได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. ดังนั้น พรรคการเมืองต้องร่วมกับผู้ที่กองทัพสนับสนุนจึงจะเป็นนายกฯได้
“ฉะนั้น การที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดให้มีนายกฯคนนอก โดยระบุว่าแล้วแต่ ส.ส.จะเลือก และบอกว่าไม่มีปัญหานั้น จะเกิดความพยายามโดยช่องทางต่างๆ วิธีการต่างๆ เพื่อให้สุดท้ายได้คนนอกเป็นนายกฯ จริงๆ โดยเวลานี้ที่พูดเรื่อง ส.ว. 5 ปี เสนอให้มีการประชุมเรื่องสำคัญกับ ส.ส.ได้ กำกับการปฏิรูป ก็ยังไม่เปิดเผยชัดว่าสุดท้าย ส.ว.จะมีอำนาจแค่ไหน ซึ่งดูแนวโน้มแล้วอาจให้ ส.ว.ชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้ ในที่สุดคนนอกก็จะได้เป็นนายกฯจริงๆ และเมื่อ คสช.เป็น ส.ว.ได้ นั่นหมายถึง คสช.ย่อมสืบทอดอำนาจต่อไปโดยยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศ ขณะที่ กรธ.เขียนให้ ส.ว.มีอำนาจมากในการให้ความเห็นชอบการตั้งองค์กรอิสระ และหากนำข้อเสนอที่ พล.อ.ประวิตรเพิ่มเข้าไปอีกจะทำให้ ส.ว.ยิ่งมีอำนาจมาก จนกลายเป็นระบบเผด็จการอย่างหนึ่ง” นายจาตุรนต์กล่าว
