ภาคปชช.ด้านสิ่งแวดล้อม นัดถก คัดค้านคสช.ใช้ม.44 ดันโครงการใหญ่ ข้ามอีไอเอ

เครือข่ายปชช.นัดถก จี้ รบ.ทบทวน ม.44 ปลดล็อกอีไอเอ ชี้ ท่าทีรบ.ออกแนวบวก เหตุไม่ใช่ปมการเมือง

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้อำนวยการ(ผอ.) สถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม (ธ.พ.ส.ส.) หนึ่งในเครือข่ายภาคประชาชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ร่วมลงชื่อคัดค้านคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2559 เมื่อวันที่ 7มีนาคม 2559 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีสาระให้กิจการด้านคมนาคม ชลประทาน การป้องกันและสาธารณภัย โรงพยาบาล ที่อยู่อาศัยไม่ต้องรอให้การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วเสร็จ สามารถหาทางออกล่วงหน้าได้เลย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการของเครือข่ายฯ ว่า ทางเครือข่ายฯ จะนัดพูดคุยในต้นสัปดาห์นี้ ว่าท่าทีล่าสุดของรัฐบาลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเป็นอย่างไรบ้าง รับฟังเสียงสะท้อนจากภาคประชาชนหรือไม่ เท่าที่เห็นรัฐบาลมุ่งเน้นแก้ปัญหาเรื่องความล่าช้าของการทำรายงานอีไอเอ ทั้งที่เรื่องอีไอเอควรแก้ไขมากกว่านั้นโดยเฉพาะเรื่องธรรมาภิบาลการเข้าถึงข้อมูลที่โปร่งใส การมีส่วนร่วมของชุมชนที่ได้รับผลกระทบซึ่งต้องปฏิรูปทั้งหมด ไม่ใช่แก้ที่ความล่าช้าซึ่งตอบโจทย์ด้านเดียว เรื่องความล่าช้าเกิดจากกระบวนการทำอีไอเอ อาจจะเป็นในเรื่องการรับฟังความเห็นที่ไม่เพียงพอ จะทำอย่างไรให้การทำรายงานอีไอเอมีคุณภาพซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาในภาพรวมได้

นายบัณฑูร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหลังเครือข่ายฯ ออกแถลงการณ์ท่าทีของรัฐบาลก็ดูเป็นเชิงบวกเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมือง ทั้งนี้ในเบื้องต้นอยากให้มีทบทวนยกเลิกคำสั่งดังกล่าว หรือมีการปรับปรุงเพิ่มเติมระบบการทำรายงานอีไอเอให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเงื่อนไขที่สำคัญจากประกาศฉบับที่ 9/2559 โจทย์ใหญ่คือการเดินหน้าโครงการคู่ขนานกับการทำรายงานอีไอเอ ซึ่งเอกชนยังไม่รู้ว่าผลการศึกษาอีไอเอจะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าศึกษารายงานอีไอเอแล้วพบว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเอกชนก็ต้องหยุดโครงการ หรือต้องปรับเปลี่ยนการออกแบบโครงการโดยมีเพิ่มต้นทุนมากขึ้นเพื่อทำตามมาตรการอีไอเอด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลต้องทำประเด็นนี้ให้ชัดเจน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image