…ย่อมเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่งกับการออกมาวิพากษ์สังคมไทยล่าสุดของ ธีรยุทธ บุญมี ผู้ได้ฉายาว่า นักวิชาการเสื้อกั๊ก ที่ก่อนหน้านั้นได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า มีความเข้าใจล้นเหลือมากมาย ที่การเมืองการปกครองของประเทศต้อง หลุดเฟรมรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มาวันนี้ อดีตผู้นำนักศึกษาสมัย 14 ตุลาฯ เน้นที่ ความสับสน
…เริ่มที่ ความสับสนของคนจน ที่ ธีรยุทธ มองว่า สับสนในภาวะชีวิต ทำนองว่า ชินกับความจน แต่หวั่นไหวว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะทำอะไรให้มีรายได้พออยู่พอกิน ขณะที่เห็นว่า ความสับสนของคนชั้นกลาง เกิดจากความรู้สึก ขาดความมั่นคง ขาดความมั่นใจในอนาคตของตัวเอง โดยสรุปว่า ชนชั้นกลางส่วนใหญ่กำลังเลื่อนสถานะลง อันนี้ต้องเอียงหูฟัง เพราะเหมือนจะไปในทางเดียวกับเสียงของคนที่ยืนอยู่คนละฟากกับรัฐบาลปัจจุบันที่ชี้ไว้ก่อนหน้านั้นนานแล้วว่า ประเทศไทยเข้าสู่คนชั้นกลางปรับสถานะมาเป็นคนชั้นล่างมากขึ้น
…ในทรรศนะของ ฝ่ายที่ปกป้องประชาธิปไตย ไม่ได้มองว่า จำนวนคนชั้นกลางที่ลดลงเกิดจากภาวะเศรษฐกิจเท่านั้น แต่มีความเชื่อว่า เจตนาทำให้ลดลง เพราะ ชนชั้นกลาง คือชนชั้นที่มีธรรมชาติของการให้ความสำคัญกับ สิทธิ เสรีภาพของตัวเอง มากที่สุด และ สำนึกเช่นนี้ ที่สุดแล้วไปสู่การยึดมั่นใน ประชาธิปไตย เพราะไม่มีการเมืองระบบใดที่เอื้อต่อ สิทธิ เสรีภาพประชาชน เท่ากับ ประชาธิปไตย
…และเมื่อ ธีรยุทธ ลงไปในรายละเอียดว่า ผมคิดว่าการเมืองไทยภายใต้การนำของ คสช.ได้ถอยห่างจากการเคารพประชาชน ถอยห่างจากความตั้งใจกระจายอำนาจให้ประชาชน แล้วใครสักคนมองกลับไปที่ กลุ่มความคิดทางการเมือง ที่ ธีรยุทธ บุญมี สัมผัส สัมพันธ์ สนทนา สังสรรค์อยู่ ย่อมต้องนึกถึง การเมืองก็มีความเปลี่ยนแปลง อย่างที่ ธีรยุทธ เกริ่นนำไว้
…ที่ต้องเหลียวหลังมาหยุดฟังอย่างตั้งใจมากคือเมื่อ ธีรยุทธ บุญมี ชี้ให้เห็น ความสับสน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในมุมมองที่ว่า ผมคิดว่าแกสับสนทางความคิดเหมือนกัน โรดแมปที่ไม่ว่าช่วงต้น ช่วงกลาง ช่วงปลาย อยู่ตรงไหน และยังซ้ำในมิติของ มุมมองต่อคนจน ว่า ท่านพูดถึงคนจนเยอะมาก แต่พูดถึงโดยไม่เข้าถึง แม้จะไม่พูดออกมาตรงๆ กับ พูดถึงคนจน แต่ไม่เข้าใจคนจน แต่คนที่ได้ฟังย่อมหนีไม่พ้นที่จะคิดไปถึงตรงนั้น
…หลังเสียงเรียกร้องเรื่อง วันเลือกตั้งที่ชัดเจน ดังกระหึ่มจากหลายฝ่าย พร้อมๆ กับเสียงจาก พรรคการเมือง ที่ชี้ให้เห็นความจำเป็นจะต้อง ขับเคลื่อนพรรคการเมืองตามกรอบของกฎหมายที่ประกาศใช้กันอยู่ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกวิพากษ์ว่า คลุมเครือในโรดแมป แสดงให้เห็นแล้วว่าหากจะเป็น คนชัดเจน ก็เป็นได้ ด้วยการแถลงอย่างเป็นทางการว่า จะ ประกาศวันเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน 2561 และ การเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561 ไม่ปล่อยให้คลุมเครืออีกต่อไป
…เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมเป็น ปกติ ที่ พรรคการเมืองต่างๆ จะเริ่มเคลื่อนแรงขึ้น เพื่อช่วงชิงความพร้อมในทุกด้าน ดังนั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าขอให้ทุกคน นักการเมือง พรรคการเมือง อยู่ในความสงบ พร้อมกับย้ำทำนองว่า จะมีผลต่อการพิจารณามาตรการในการผ่อนคลายต่างๆ คงหยุดยั้งช่วงชิงความได้เปรียบของพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ได้ง่าย
…และคำถามแวดวงการเมืองจะโฟกัสแบบเกาะไม่ปล่อยคือ คสช. จะเอาอย่างไรกับ เกมต่อไปทางการเมือง บรรดา บูรพาพยัคฆ์ จะวางยุทธศาสตร์อำนาจอย่างไรต่อไป เพื่อใช้ กติกาการเมือง ที่วางกรอบเอื้อ นักการเมือง ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไว้อย่างเข้มข้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร
ชโลทร