ประธาน ป.ป.ช.ชี้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วย สตง.ยุติแล้ว ปัดรู้เห็น จนท.ล่ารายชื่อ

(แฟ้มภาพ)

ประธาน ป.ป.ช.ชี้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วย สตง.ยุติแล้ว ปัดรู้เห็น จนท.ล่ารายชื่อ บอกปัจจุบันข่าวสารรวดเร็ว-ทุกคนมีเสรีภาพ ระบุเรื่องร้อนตอนนี้คือ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วย ป.ป.ช. ถึงมือ สนช. 31 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่สำนักงาน ป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ผ่านความเห็นชอบในวาระ 2-3 จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว ว่าเห็นด้วยในเนื้อหาของกฎหมาย เพราะว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินของทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ความเคลื่อนไหวคัดค้านนั้น ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า “ประเด็นที่เราคัดค้าน เราไม่ได้คัดค้านในประเด็นเรื่องการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน เพราะกรณีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของ สตง.อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่มีเจ้าหน้าที่ออกมาเคลื่อนไหวล่ารายชื่อกันนั้น ตนไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงก็ทราบตามรายงานข่าว แต่ยอมรับว่าปัจจุบันนั้นเรื่องข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่รวดเร็ว ทุกคนก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะกลัวประเด็นอื่นหลังจากที่ได้อ่านกฎหมายกันแล้วเขาคงมองว่าการดำเนินการตรงนั้นอาจจะก้าวไปไกลกว่าที่คิดว่ามีอำนาจหน้าที่ซึ่งเมื่อสภาได้พิจารณาแล้วก็เป็นที่ยุติ

สำหรับเรื่องที่เร่งด่วนของเราขณะนี้คือ การดำเนินการเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ทราบว่ากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะส่งร่างกฎหมายไปยัง สนช. ในวันที่ 31 ต.ค.และจะเข้าวาระแรกในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ทางป.ป.ช.ได้เรื่องชี้แจงความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายไปยัง กรธ.แล้ว เกี่ยวกับบริบทของการทำหน้าที่ที่มีปัญหาอุปสรรคขัดกับร่างกฎหมายโดยจะพยายามชี้แจงกับ กรธ. และหากว่าท้ายที่สุดยังไม่ได้มีการปรับแก้ตามข้อเสนอ ก็ยังมีชั้นกรรมาธิการวิสามัญ โดยยืนยันว่าจะใช้เวทีนี้ชี้แจงอีกครั้ง รวมถึงช่องทางกระบวนการอื่นๆ ที่จะทำให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นที่อยากให้ กรธ.ปรับแก้มากที่สุด คือเรื่องกรอบเวลาการทำงาน เพราะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ทำงานภายใต้แรงกดดัน และกังวลกับเรื่องของบทลงโทษ

Advertisement

พล.ต.อ.วัชรพลระบุถึงการรื้อฟื้นคดี 3 คดีใหญ่ ที่จะยื่นต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีคดีที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร 2 คดีว่า อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีข้อมูลเรื่องเดิมอยู่แล้ว มติกรรมการ ป.ป.ช.ได้มอบให้สำนักคดีไปดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อแล้วเสร็จก็จะยื่นคำร้องต่อศาลต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image