นายกฯสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานคำแนะนำ

“นายกฯ” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานคำแนะนำ ขอบคุณคนไทยร่วมจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิง ในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างสมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า ​​บัดนี้ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสร็จสิ้นลงแล้วอย่างสมบูรณ์ และสมพระเกียรติด้วยความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนชาวไทยโดยพร้อมเพรียง เพราะถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบสูงสุด และเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้สนองพระมหากรุณาธิคุณตราบถึงวาระสุดท้ายแห่งการถวายบังคมลา ตามคตินิยมโบราณที่ว่า “ขอร่วมกันส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย”

รัฐบาลและคณะกรรมการอำนวยการจัดงานรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานคำแนะนำอันทรงคุณค่า และทรงวินิจฉัยปัญหาในทางปฏิบัติจนขจัดคลี่คลายอุปสรรค สามารถดำเนินการต่อไปได้ในหลายเรื่องด้วยความเรียบร้อยทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและประชาชน ทั้งในเรื่องอาหารการกิน ดินฟ้าอากาศ การสัญจร การเข้าถวายบังคมพระบรมศพ และการมีส่วนร่วมในพระราชพิธี ดังที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้สร้างพระเมรุมาศจำลองขึ้นในทุกจังหวัดและพระราชทานหีบเพลิง ไฟหลวง จากพระหัตถ์เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เชิญไปเป็นต้นเพลิงพระราชทาน ณ ทุกจังหวัดและในต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณารับเป็นประธานที่ปรึกษาของคณะกรรมการ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประชุมร่วมกับคณะกรรมการหลายครั้ง เสด็จฯไปทอดพระเนตรและทรงติดตามงานทุกด้านอย่างใกล้ชิด พระราชทานคำแนะนำต่างๆ มาโดยตลอด และด้วยพระบารมีของทั้งสองพระองค์งานพระราชพิธีจึงสำเร็จลงได้ด้วยความเรียบร้อย สง่างาม สมพระเกียรติ และยังเป็นประโยชน์ทางด้านการอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรม อีกด้วยพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้ อีกประการหนึ่งรัฐบาลและคณะกรรมการอำนวยการจัดงานขอขอบคุณสถาปนิก วิศวกร จิตรกร ประติมากร ช่างศิลปกรรมทุกแขนง ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภาคเอกชน ช่างราชสำนัก ช่างสิบหมู่ ช่างพื้นบ้าน หรืออาสาสมัครที่ต่างได้บรรจงจัดสร้าง ตกแต่ง ประดับประดา หรือบูรณะซ่อมแซม ทั้งในส่วนของพระเมรุมาศ ราชรถ มหัคฆภัณฑ์ทั้งหลายที่ใช้ในการพระราชพิธีและภูมิทัศน์อย่างประณีตบรรจง นับว่าเป็นการชุมนุมงานฝีมือช่างชั้นครู สุดยอดแห่งศิลปกรรมอันวิจิตรอลังการทุกแขนง และเป็นที่ซาบซึ้งพระทัย และประทับใจของพระประมุข พระราชวงศ์ ประมุข ผู้นำรัฐบาลนานาประเทศที่มาร่วมงานพระราชพิธีตลอดจนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจได้รับการกล่าวถึงด้วยความชื่นชมไปทั่วโลก

Advertisement

“รัฐบาลขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเตรียมงาน การฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ การต้อนรับ ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนจำนวนกว่าสิบล้านคนที่หลั่งไหลกันมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยทั่วราชอาณาจักรโดยเฉพาะในอาณาบริเวณพระเมรุมาศ พระเมรุมาศจำลอง และซุ้มวางดอกไม้จันทน์ทุกแห่ง จนการพระราชพิธีเสร็จสิ้นลง ทั้งขอขอบคุณบรรดาจิตอาสาเฉพาะกิจ จิตอาสาทั่วไป และอาสาสมัครที่ต่างเสียสละช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และเอื้อเฟื้อเกื้อกูลเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันอย่างดี ที่นับว่าสำคัญยิ่งคือ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกที่ร่วมมือร่วมใจกันจัดกิจกรรมในส่วนของตน และปฏิบัติตามคำเชิญชวนหรือร้องขอของทางราชการ ซึ่งจำเป็นต้องกำหนดขึ้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดจนสื่อมวลชน นักกีฬา ศิลปิน ทั้งนี้เป็นเพราะเราทั้งหลายต่างมีศูนย์รวมจิตใจร่วมกัน มีหัวอกเดียวกัน จึงปรารถนาจะพูดและทำอย่างที่คิดเห็นตรงกัน คือการทำความดีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีใครมาแนะนำ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในช่วงเวลาขณะนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชานุญาตให้จัดนิทรรศการพระเมรุมาศขึ้น ณ บริเวณสถานที่ที่เคยใช้เป็นพระเมรุมาศท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายน 2560 รวมเวลาประมาณ 1 เดือนก่อนจะมีการรื้อถอนต่อไป รัฐบาลจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปชมนิทรรศการดังกล่าวอันจะแสดงให้เห็นถึงองค์ความรู้เกี่ยวกับพระเมรุมาศและพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตลอดจนพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทั้งจะได้เก็บบรรยากาศประวัติศาสตร์นี้ไว้ในความทรงจำเพื่อบอกกล่าวแก่ลูกหลานสืบไป

“พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน
งานพระบรมศพเสร็จสิ้นลงแล้ว ดอกไม้จันทน์ที่เราวางเพื่อถวายราชสักการะได้เผามอดไหม้หมดแล้ว ดอกดาวเรืองนับล้านๆ ต้นทั่วประเทศอาจเริ่มร่วงโรย แถบผ้าดำขาวแสดงความอาลัยได้ปลดออกแล้ว แต่พระบรมราโชวาท ศาสตร์พระราชา และคำสอนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริร่วมสี่พันโครงการ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ยังคงดำเนินการต่อไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นความทรงจำยิ่งใหญ่ที่เราทั้งหลายพึงสืบสานเจริญรอยตามพระยุคลบาท อันจะเป็นพระบรมราชานุสรณ์ สนองพระมหากรุณาธิคุณเป็นมงคลแก่ตนและเป็นพลังของแผ่นดินอย่างยั่งยืน ​​ขอเดชะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ปกเกล้าปกกระหม่อม อภิบาลบันดาลดลให้ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์มีพลังที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง สมดังพระบรมราชปณิธานและมีความร่มเย็นเป็นสุข วัฒนาสถาพรตลอดไป” นายกฯ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image