รองนายกฯประชุม กอร.พระราชพิธี ครั้งสุดท้าย กห.เผยมี ปชช.กว่า 20 ล้านร่วมวางดอกไม้จันทน์(คลิป)

“ประวิตร” ประชุม กอร.พระราชพิธี ครั้งสุดท้าย ขอบคุณทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือ พร้อมประเมินยอดประชาชนเข้าร่วมพระราชพิธี เตรียมมอบ กอร.รส.ทัพภาค 1 ดูแลประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศตลอดเดือน พ.ย.

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธีฯ) ครั้งสุดท้ายภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีฯ โดยมีผู้แทนเหล่าทัพ ส่วนราชการ ตลอดจนถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดย พล.อ.ประวิตรแถลงภายหลังการประชุมว่า ทุกอย่างมีความเรียบร้อยดีและมีความปลอดภัย เพราะได้รับความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชน รวมทั้งการสร้างความรับรู้ของกรมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่าพื้นที่อยู่ พื้นที่กิน อยู่ตรงไหน พื้นที่ขบวนเสด็จฯผ่านเส้นทางใด จนทำให้ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทุกอย่างจึงเรียบร้อย ขณะที่ตัวเลขประชาชนที่เข้าร่วมพระราชพิธีทั้งหมดประมาณ 2 แสนกว่าคน ส่วนพื้นที่ชั้นในพระราชพิธีประมาณ 150,000 คน และพื้นที่ชั้นนอก 80,000 คน ส่วนพื้นที่วางดอกไม้จันทน์ตามต่างจังหวัดที่พบว่ามีบางพื้นที่ไม่วางแผนงาน ไม่เป็นระบบ และไม่เหมาะสมนั้น ตนคิดว่าเกิดขึ้นบางพื้นที่ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยพยายามแก้ไขหน้างานอยู่แล้ว โดยเปิดการวางดอกไม้จันทน์ อย่างเช่น บริเวณพุทธมณฑลนั้น พบว่าประชาชนรอคิวนาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เราก็พยายามแก้ไขปัญหาให้วางได้หลายจุด

Advertisement

พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศนั้น ทางกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) กองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ดูแลหลัก เพราะ กอร.ร่วมพระราชพิธีปิดศูนย์ในวันนี้ โดยจากนี้ไปจะใช้เจ้าหน้าที่จิตอาสามาช่วยเหลือประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศหรือไม่นั้น ตนคิดว่าทุกคนตั้งใจมาช่วยพระราชพิธีนี้ อีกทั้งกรณีนี้เป็นงานเฉพาะกิจ ซึ่งต่อไปคงจะใช้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ส่วนการเปิดพระเมรุมาศให้ประชาชนเข้าชมนั้นจะเปิดตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายน แต่จะขยายเวลาออกไปหรือไม่นั้น เราจะต้องประเมินสถานการณ์ และดูจำนวนคนก่อน อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ล่วงหน้า

“อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปเราจะสรุปบทเรียนทุกงานของพระราชพิธีฯ โดยจัดทำเป็นหนังสือเพื่อเป็นประวัติศาสตร์ต่อไป พร้อมทั้งขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั่วประเทศที่เข้ามาช่วยกันทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงมหาดไทย” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สรุปการอำนวยการงานที่สำคัญด้านต่างๆ ทั้งในพื้นที่ กทม.และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1-30 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งด้านการถวายความปลอดภัย การดูแลความปลอดภัยสถานที่และรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การอำนวยความสะดวกการจราจร การบริการด้านอื่นๆ เช่น การขนส่ง การแพทย์ ด้านอาหาร เครื่องดื่ม และสุขา รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ ซึ่งในภาพรวมการควบคุม อำนวยการ และการกำกับดูแลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในภาพรวมมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีในพื้นที่ชั้นใน รอบบริเวณพระบรมมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อ 25-26 ตุลาคม รวมประมาณ 230,000 คน และประชาชนร่วมรับเสด็จ ในพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เมื่อ 27 ตุลาคม ประมาณ 24,000 คน สำหรับพื้นที่จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและจุดวางดอกไม้จันทน์ มีประชาชนมาร่วมวางดอกไม้จันทน์ใน กทม.จำนวนประมาณ 3,300,000 คน และต่างจังหวัด จำนวนประมาณ 16,170,000 คน

Advertisement

“ทาง พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการและเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกส่วนราชการทั่วประเทศ ที่ได้ทุ่มเท ตั้งใจทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง 24 ชม.ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการทำงานด้วยหัวใจของความจงรักภักดีร่วมกัน เพื่อให้งานพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติสูงสุด พร้อมกับขอให้นำปัญหาและการดำเนินงานที่ผ่านมาสรุปเป็นบทเรียนการทำงานร่วมกัน เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของหน่วยงานต่อไป พร้อมกันนี้ยังขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนทั่วประเทศที่มีน้ำใจและพยายามเข้าใจ ให้ความร่วมมือกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันเตรียมงานและอำนวยการงานพระราชพิธีนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ด้วยความมีหัวใจเดียวกัน ก็ได้ร่วมกันคลี่คลายแก้ไขด้วยความเข้าใจร่วมกันด้วยดี” พล.ท.คงชีพ กล่าว

พล.ท.คงชีพกล่าวต่อว่า การทำงานของกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ศาลาว่าการกลาโหม ถือว่าสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล และจะส่งมอบพื้นที่ให้กับกองทัพภาคที่ 1 โดย กอร.รส. ทภ.1 ตั้งแต่ 30 ตุลาคมเป็นต้นไป เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ ตั้งแต่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image