“สาธิต” เชื่อ ปชป.ไม่มีทิ้งพรรคอีกแน่ ย้ำคุยกลุ่ม กปปส.เคลียร์แล้ว

“สาธิต” เชื่อ ปชป.ไม่มีทิ้งพรรคอีกแน่ ย้ำคุยกลุ่ม กปปส.เคลียร์แล้ว ชี้ กม.ลูก ส.ส.-ส.ว. ควรให้นักการเมืองมีส่วนเริ่ม เหตุรู้ปัญหาดี

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการต่อสู้ทางการเมืองหลังจากนี้ว่า คงเป็นไปตามปกติ การเมืองก็จะเดินหน้าไปตามโรดแมปเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งต่อไป ส่วนการแสดงความเห็นต่างๆ ก็น่าจะทำได้เต็มที่มากขึ้น เชื่อว่าคงไม่มีความรุนแรง เพราะที่ผ่านมาที่เกิดความรุนแรงก็เป็นเพราะคนกลุ่มหนึ่งที่เลือกจะแสดงออกอย่างรุนแรงเพื่อที่จะได้มาซึ่งอำนาจมากกว่า คนกลุ่มนี้ต้องแยกออกไปจากการเมืองแบบปกติ เพราะการเมืองปกตินั้นไม่มีความรุนแรง เป็นแค่การแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ส่วนการทำกิจกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เตรียมตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะการทำตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ระบุในเงื่อนไขต่างๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนค่อนข้างมาก เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย

เมื่อถามถึงจุดยืนของสมาชิกพรรค ปชป.จะมีใครย้ายออกจากพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า เรื่อง ส.ส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าสำหรับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คงจะมีน้อยมากที่ตัดสินใจย้ายพรรค ที่ผ่านมาก็มีให้เห็นชัดเจนแค่นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก เท่านั้นที่ตัดสินใจย้ายออกไป ส่วนอดีตสมาชิก กปปส.ที่กลับเข้ามาพรรค ปชป. ก็ได้มีการคุยกันชัดเจนก่อนหน้านี้แล้ว และมีจุดยืนที่ตรงกัน คือต้องเคารพในจุดยืนของทางพรรค ปชป.

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรค ปชป.ต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นายสาธิตกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำความเห็นส่งไปยังนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แล้ว และได้แสดงความเห็นในการจัดทำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ โดยตลอด โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้คิดว่าหากให้เราไปมีส่วนร่วมในการร่างกฎหมายก็คงจะมีความสมบูรณ์มากขึ้น เพราะอดีต ส.ส.ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการยกร่างกฎหมายมองว่าพวกเราเป็นนักการเมือง กลัวว่าเข้าไปแล้วจะไปร่างกฎหมายเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ซึ่งทำให้กฎหมายที่ผ่านมายังไม่สมบูรณ์เพราะเป็นแนวคิดในเชิงทฤษฎี แต่พอออกมาในทางปฏิบัติจะเป็นปัญหามากกว่า ซึ่งจะมีเพียงแค่ไม่กี่ความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ได้รับการตอบสนองและถูกนำไปเขียนเป็นกฎหมาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image