กรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หากนำเอา 2 ข่าวนี้มาวางเรียงกัน
1 เป็นการยืนยันจากกระทรวงการต่างประเทศ(กต.)ว่าได้มีการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรียบร้อยแล้ว
1 เป็นการยืนยันจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)
“ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ยังไม่มีประเทศใดตอบกลับมาว่าพบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ใด และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการขอลี้ภัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย”
นี่ย่อมเป็นเรื่องแปลกอย่างค่อนข้างประหลาด
ความรับรู้อย่างเป็นทางการก็คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เดินทางไปรับฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคม
ศาลจึงได้ออก”หมายจับ”
ศาลได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 27 กันยายน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ไปรับฟังคำพิพากษา
จึงมีการออก”หมายจับ” จึงมีการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งสิ้น 4 เล่ม เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม
คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ
การหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับแต่วันที่ 24 สิงหาคม กระทั่ง วันที่ 25 ตุลาคม ไม่มีเบาะแสอะไรเลยหรือ
นอกจาก “ข่าวลือ”
ที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือ “ยังไม่มีประเทศใดตอบกลับมาว่าพบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ใด”
ไม่ว่าประเทศ”ต้นทาง” ไม่ว่าประเทศ”ปลายทาง”
กรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นปัญหาต่อตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างแน่นอน
เพราะอยู่ในสถานะแห่ง “นักโทษ หนีคดี”
แต่คำถามก็เสนอเข้ามายัง”ประเทศไทย”อย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า มี”คำตอบ”ต่อการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างไร ทำไมสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้โดยไม่ปรากฏพยาน หรือหลักฐานใดๆในกระบวนการสอบสวน
แม้กระทั่ง”หลักฐาน”การเดินทางใน”ต่างประเทศ”
