“เพื่อไทย” ลงพื้นที่อ่างทอง ช่วยปชช. น้ำท่วม ฝากรบ.ดูเรื่องการเยียวยา แนะ การปชส.ยังอ่อน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่จ.อ่างทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อมคณะผู้บริหารพรรคและคณะทำงานของพรรค อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่น้ำท่วมที่จ.อ่างทอง เพื่อมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งน้ำดื่มและอาหารแห้ง โดยเดินทางไปใน 3 พื้นที่ เริ่มจากศาลาหมู่ 5 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จากนั้นไปเทศบาลชุมชน 1 ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก ก่อนเดินทางไปยัง วัดปทุมคงคา ต.หลักฟ้า อ.ไชโย ทั้งนี้ในพื้นที่ต.โผงเผง หมู่ 3, 4 และ 5 มีปริมาณน้ำท่วมสูง กว่า 2 เมตร ท่วมมานานแล้วกว่า 1 เดือน ชาวบ้านต้องพายเรือมารับของแจกกว่า 297 คน อย่างไรก็ตามในขณะลงพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ทหารจาก กกล.รส.ทภ.1 จำนวน 3 นาย มาสังเกตความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด
โดยเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.วิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่น้ำท่วมว่า ที่ผ่านมาก่อนน้ำจะท่วมในพื้นที่ใดก็ตาม ประชาชนจะได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องน้ำก่อน แต่ครั้งนี้ประชาชนบ่นว่า ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า มาถึงน้ำก็ขึ้นเป็นเมตร เรื่องการประชาสัมพันธ์ถูกบ่นกันมากอย่างไรก็ตามจ่กการลงพื้นที่วันนี้ สิ่งที่ได้เห็นคือพี่น้องประชาชนลำบากมาก ต้องอพยพทั้วตัวเองและสัตว์เลี้ยงขึ้นมาอยู่บนถนน ซึ่งการมาลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยมนวันนี้ เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียกมายังอดีต ส.ส. ว่ามีความทุกข์ร้อน อดีตผู้แทนของพรรคจึงได้บอกมายังพรรค จึงได้ขอมาลงพื้นที่ร่วมด้วยในวันนี้ สำหรับการเยียวยาประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะนี้ประชาชนไม่ทราบว่าจะได้รับการชดเชยหรือไม่ เท่าที่ตนได้สอบถามจากกำนัน ระบุว่า มีการให้ตำรวจเจ้ามาตรวจสอบและแจ้งชื่อไปยังรัฐบาลแล้ว จึงอยากขอฝากเรื่องนี้ด้วย
นายปลอดประสพ กล่าวว่า หากจะให้แนะนำรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาน้ำท่วมนั้นคงไม่กล้าเพราะนายกฯ เก่งทุกเรื่อง แต่ในฐานะที่เห็นปัญหามามากจะแบ่งเป็น 2 พื้นที่ 1.พื้นที่ริมแม่น้ำหรือนอกคันกั้นน้ำ อย่างไรก็ประสบปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลต้องทำให้เป็นหมู้บ้านน้ำให้ได้ โดยยกระดับบ้านให้สูงขึ้นและบริหารจัดการไม่ให้ชาวบ้านอยู่อย่างยากลำบากเพราะน้ำต้องท่วมทุกปี 2.พื้นที่แก้มลิง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากที่อื่นๆ รัฐบาลควรมีวิธีจัดการถาวรให้สมกับที่ชาวบ้านเสียสละพื้นที่ ขอให้ช่วยเหลือทั้งเครื่องมือและการผลิต ส่วนกรณีที่นายกฯ แนะนำชาวบ้านให้ทำประมงเมื่อเกิดอุทกภัยนั้น ตนเป็นอธิบดีประมงมา 8 ปี ยังไม่กล้าแนะนำแบบนี้เพราะพื้นที่เป็นแปลงนาข้าวก็ต้องเพาะปลูกข้าว แต่ถ้ารัฐบาลจะให้ชาวบ้านเลี้ยงปลา น้ำบริเวณดังกล่าวต้องไม่ใช่น้ำเสีย ซึ่งคิดว่าชาวบ้านรู้อยู่แล้วโดยไม่ต้องไปบอกกล่าวเขา
