ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ต้องวิ่งรอกระหว่าง “ทำเนียบ รัฐบาล” กับอาคาร”รัฐสภา”ทั้งๆ ที่เป็นยามย่ำสนธยา 18.00 น.แล้ว
บางคนอาจจะเห็นว่า เป็นเพราะเสียงโทรศัพท์อันมาจาก “ผู้ใหญ่” ในรัฐบาล “ผู้ใหญ่” ในทำเนียบรัฐบาล เป็นการโทรศัพท์กำชับ 2 ครั้งติดๆ กัน
จากหลัง 15.00 น.ไม่นาน ออก “คำบัญชา” ให้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ต้องไปชี้แจงกับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ โดยด่วน
แล้ว”ข่าวลือ”ว่าจะมี “การลาออก” มาจากไหน
หากติดตามกระบวนการทางการข่าวอย่างเกาะติดและใกล้ชิดก็จะต้องยอมรับว่ามิได้มาจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.
ทั้งมิได้มาจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์
ตรงกันข้าม ดังมาจาก “ทำเนียบรัฐบาล” ตรงกันข้าม หลุดออกมาจากปาก พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
แม้จะเป็นการปฏิเสธว่า ไม่มี “การลาออก”
“วันนี้ บ้านเมืองมีปัญหามาก การเข้ามาร่างรัฐธรรมนูญของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ มี ความกดดัน หาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไม่ใช่ผู้เสียสละ ไม่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง คงไม่รับภารกิจนี้”
คล้ายกับว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ถูกกดดันจาก”กลุ่มการเมือง”
คล้ายกับว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ จะสงสัย แคลงใจ ต่อ”ข้อเสนอ”อันมาจากครม.และมาจากคสช.
เป็นเช่นนั้น
แต่คนระดับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ก็มีกระบวนท่าและท่วงทำนองในการรับมือกับแต่ละ “ข้อเสนอ”ได้อย่างรัดกุม
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ “เก๋า” กว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ แน่นอน
ยิ่งกว่านั้น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ยัง”เก๋า”และมากด้วย”กระบวนท่า” ยิ่งกว่า นายวิษณุ เครืองาม ด้วยซ้ำไป
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เมื่อเดือนกันยายน 2558 อาจเดินหน้า
เดินหน้าแล้วก็ปะทะเข้ากับ “โผลับ” ให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ
กว่าจะสามารถสรุปได้ว่า “เขาอยากอยู่ยาว”
ก็นอนเลียแผลอยู่เป็นเวลานาน
หากจับอากัปกิริยาของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ตั้งแต่ได้รับ”ข้อเสนอ”จำนวน 16 จากครม.รวมถึงความต้องการลึกๆ ของ”คสช.”
ก็จะประจักษ์ในความ”เก๋า” ของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์
1 ท่าทีของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ มิได้สะท้อนรูปธรรมออกมาในลักษณะ”ดับเครื่องชน”แบบ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ไม่มีคำพูดประเภท “ต้องข้ามศพ” ผมไปก่อน”
1 ท่าทีของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ มิได้เหมือนกับการค่อยๆ เฟดออกไปจากวงจรแบบที่ นายวิษณุ เครืองาม แสดงออกหลังประชุมครม.เมื่อวันที่ 15 มีนาคม
ไม่มีหรอกที่จะ”หายตัว”ไปอย่าง”ไร้ร่องรอย”
ตรงกันข้าม นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อ้าแขนรับ”ข้อเสนอ” ไม่ว่าจะมาจากครม. ไม่ว่าจะมาจากคสช.
พร้อมกับสำทับว่า “มีเหตุผล มีน้ำหนัก”
เพียงแต่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เน้นอย่างหนักแน่นและจริงจังว่า ต้องทำมาอย่างเป็น “ลายลักษณ์อักษร”
เข้าทางตรอก ออกทางประตู
ไม่จำเป็นต้องให้ นายวิษณุ เครืองาม ย้ำว่า “ลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ก็รู้อยู่เป็นอย่างดี
เพียงแต่ขอ “หลักฐาน” ให้เห็นกัน”จะ-จะ”
ในฐานะ “เนติบริกร”ซึ่งรับจ้าง “ทำของ” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ พร้อม “สนองงาน”ให้เต็มพิกัด
เพียงแต่ “ความรับผิดชอบ” ต้องเป็นของ”คสช.”เท่านั้น
