วันนี้ (1 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่ง ระบุว่า
เราจะต้องดูแลเรื่องการบุกรุกผืนป่านะครับ มีบุกรุกผืนป่าไปทำการเกษตร ไปปลูกยาง ปลูกปาล์ม อะไรก็แล้วแต่ ผมก็ได้สั่งการไปแล้วว่าจะมีการตัดต้นยางในพื้นที่บุกรุกของนายทุนนะครับ ผมย้ำว่าในพื้นที่บุกรุกของนายทุนนะครับ และในส่วนที่เป็นพื้นที่ของเกษตรกรที่มีรายได้น้อยนะครับ เราก็จะต้องชะลอการกรีดยาง หรือลดการกรีดยางลง อะไรสักอย่างที่จะทำให้ปริมาณยางออกมาน้อยลง แต่เราจะต้องดูแลเกษตรกรเหล่านี้อย่างไรนะครับ จะได้ช่วยลดอุปทาน ในตลาดของยางได้บางส่วนนะครับ
ในส่วนของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย เราก็จะต้องหามาตรการดูแลเป็นพิเศษ หลายคนก็ปลูกในพื้นที่บุกรุกเหมือนกัน แต่ผมเห็นว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย จะต้องหามาตรการพิเศษ ว่าจะดูแลเขาได้อย่างไรนะครับ รวมทั้งการสร้างรายได้เสริมโดยการปลูกพืชแซมยาง เช่น กล้วย
วันนี้กล้วย ผมเห็นข่าวบางที่ก็บอกว่าราคาต่ำลง แสดงว่าเราปลูกกันมากเกินไปหรือเปล่า ก็ต้องไปดูตรงนั้น การจะสนับสนุนอะไรก็ตามต้องดูดีมานด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นก็ผลิตมามากเกินไป แล้วก็แข่งขันกัน ราคาก็ตก ก็ถูกกดราคาโดยพ่อค้าคนกลางนะครับ พ่อค้าคนกลางก็มีความจำเป็น เพราะว่าไม่อย่างนั้น ก็จะขนส่งไปไหนไม่ได้ ตลาดก็ไม่มี
เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็ต้องไปดูตรงนั้น ให้เกิดความเป็นธรรมนะครับ เราบังคับมาก ก็เป็นกลไกของการค้าเสรีเข้าไปอีก หลายคนก็คาดหวังให้รัฐบาลไปบังคับนี่โน่น บางทีทำไม่ได้นะครับ เราก็ทำได้เท่าที่กฎหมายหรือกฏระเบียบต่างๆเอื้ออำนวยให้รัฐบาล หรือหน่วยงานภาครัฐทำได้นะครับ
อีกประการหนึ่งคือการทำปศุสัตว์เสริม อันนี้จำเป็นนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเลิกปลูกยาง มาปลูกกล้วย เลิกปลูกยาง มาปลูกมะพร้าวผมไม่เคยพูดแบบนั้น เพราะฉะนั้นสื่อกรุณานำเสนอให้ถูกต้องด้วยนะครับ หลายครั้งแล้วที่มีการนำเสนอในทางที่เหมือนกับนายกฯ คิดอะไรผิดตลอด ผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลิกปลูกข้าว เลิกปลูกยาง มาปลูกกล้วย มาปลูกหมามุ่ย ก่อนนี้นะ หรือมาปลูกมะพร้าวแทน ไม่ได้หรอกครับ ถ้าคิดอย่างนั้น อย่ามาเป็นนายกฯ เลยดีกว่า ท่านก็อย่าไปเสนออย่างนั้น คนเขากลับมาเล่นงานผมอีก
