วันนี้ (1 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่ง ระบุว่า
สำหรับเรื่องโรงไฟฟ้าที่ภาคใต้ วันนี้ก็เป็นประเด็นสำคัญ ประเด็นร้อนนะครับ ผมก็ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไปดำเนินการให้ได้ข้อยุติปราศจากความขัดแย้งนะครับ ขณะนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่นะครับ
ในช่วงที่ผ่านมา ท่านรัฐมนตรีเดิมก็ไม่ได้ไปกำหนดว่าต้องสร้าง หรือไม่ต้องสร้าง อะไรทำนองนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนอยู่ทั้งหมดนั่นแหละ คราวนี้บางทีสื่อก็ไม่ทราบ ประชาชนก็ไม่รู้อีก หรือบางทีก็ไม่สนใจ ไปสนใจแต่เพียงว่าสร้าง หรือไม่สร้าง จริงๆ มีขั้นตอนทั้งหมด ที่ผ่านมาขั้นตอนต่างๆ ก็ผ่านมาแล้ว แต่เมื่อทำไม่ได้ รัฐบาล ผมเองก็ได้สั่งการลงไปว่าไปทบทวนซิว่า ถ้าทำได้ก็จะดีกว่าทำไม่ได้ไหม แล้วทำได้ที่ว่าจะขัดยังกันไหม
เพราะฉะนั้นประชาชนก็ต้องฟังบ้างนะครับ ไม่ใช่จะดึงดันกันไปทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลไม่อยากจะดึงดันอะไรกับใครทั้งสิ้น เพราะต้องคำนึงถึงต้นทุนในการก่อสร้าง พื้นที่ในการก่อสร้าง แล้วก็ความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้านะครับ
หลายคนก็บอกว่าค่าไฟฟ้าแพง อยากให้ค่าไฟฟ้าลดลง ลดลงไม่ได้หรอกครับถ้าการผลิตต่างๆ ไฟฟ้าจากพลังงานหลักนี่ มาจากส่วนกลาง หรือในภาคอื่น แล้วส่งลงไปพื้นที่ห่างไกลนี่ บวกต้นทุนในเรื่องของการทำสายส่งเข้าไปด้วย
เพราะฉะนั้นต้นทุนจะเกิดจาก แหล่งที่ก่อให้เกิดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นแก๊ส เป็นน้ำมัน เป็นถ่านหินลิกไนต์ อะไรก็แล้วแต่ แล้ววันนี้มีเทคโนโลยีมากมายนะครับ ที่จะแก้ปัญหาเดิมๆ ได้ เพราะฉะนั้นนี่คือต้นทุนอันที่หนึ่ง อันที่สองคือเทคนิคในการก่อสร้างโรงงาน ก็แพงขึ้นเครื่องไม้เครื่องมือก็แพงขึ้น อันที่สามก็คือสายส่งซึ่งเหล่านี้จะทำให้บวกเข้าไปในค่าต้นทุน
คราวนี้สมมุติว่าไปสร้างในพื้นที่ห่างไกล ได้ก็จะลดในส่วนนี้ ไม่ต้องไปลากมาจากไกลๆ ถ้ามีปัญหาอีกนะครับ ก็ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องความพลังงาน เกิดไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ จะทำอย่างไรนะครับ
สำหรับอีกเรื่องหนึ่งคือการไปซื้อมาจากต่างประเทศ โอเค ล่ะ วันนี้ก็ซื้อได้นะครับ แต่ถ้าวันหน้าเขาขายน้อยลง หรือเขาตั้งราคาขายสูงขึ้น แล้วเราจะทำยังไง จะมีคำตอบไหม ว่าเราจะดูแลประชาชนเราได้อย่างไร ก็อยากให้คำนึงถึงทุกมิติเหล่านี้นะครับ
เหล่านี้คือต้นทุนการไฟฟ้าทั้งสิ้น ค่าไฟฟ้าทั้งสิ้น แล้วค่าไฟฟ้าทั้งหมดนี้ ทั้งต้นทุนการผลิต ทั้งราคา ทั้งการดำเนินงาน การบริหารจัดการทั้งหมด รวมอยู่ในค่าไฟฟ้าทั้งหมดนั้นแหละ เพราะฉะนั้นเมื่อรวมมาแล้วนี้ ถ้าสิ่งเหล่านี้สูงเกินไป มากเกินไป อะไรที่ควรประหยัด ไม่ได้ประหยัด เทคโนโลยีใหม่ก็มีแล้วไม่ใช้ หรือใช้ไม่ได้ เหล่านี้แหละครับเป็นปัญหาในอนาคต ต้องฝากทุกคนช่วยกันคิดด้วยแล้วกัน
ผมก็ไม่ได้บอกว่า ต้องอย่างนี้ ต้องอย่างนั้น เพียงแต่ผมเสนอแนวทาง เสนอหนทางปฎิบัติ กระทรวงพลังงานเขามีหน้าที่ในการหาไฟฟ้า หาพลังงาน มีกฎหมายของเขาด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนต้องฟังเหตุฟังผลซึ่งกันและกันนะครับ
ในส่วนของที่ผ่านมา ก็มีการใช้กฎหมาย บังคับใช้กฎหมาย อันนั้นแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ อันที่ 1 ก็ไม่อยากให้ปัญหาลุกลามบานปลาย ทุกคนก็ต้องรักษากฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็รักษากฎหมาย ประชาชนก็ต้องเคารพกฎหมาย เพราะฉะนั้นต้องเป็นเหตุผลซึ่งกันและกัน การที่จะส่งข้อมูลอะไรถึงผมนี่ บางทีมีตั้งหลายช่องทาง บางทีมาพูดกับผมโดยตรง ผมก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะเวลาผม หรือกิจกรรมหลักผม บางทีก็หายไป ผมก็พร้อมจะฟังทุกวัน
แล้วก็เรื่องไฟฟ้า ถ่านหินเทพา ไม่ว่าจะกระบี่ อะไรต่างๆ ข้อมูลอยู่ที่ผมทั้งหมด มีทั้ง 2 ทาง ประชาชนก็มี ภาคราชการก็มี กระทรวงพลังงานก็ส่ง ผมก็ส่งถามไปตลอด ไม่ใช่ผมไม่สนใจนะ คราวนี้ก็ขอร้องกันเถิดนะ การที่จะเคลื่อนไหวต่างๆ แล้วกดดัน แล้วบอกว่าเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน คนละเรื่องกันหมดนะ
เพราะฉะนั้นสื่อก็กรุณาอย่าสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ขยายความขัดแย้งต่อไปเลยนะครับ เพราะฉะนั้นต้องไปทบทวนดูว่ากฎหมายอยู่ตรงไหน ทำได้อย่างไร นายกฯ รับฟังหรือเปล่า ในช่วงที่ผ่านมา แล้วมีแผนดำเนินการอย่างไร
วันนี้ผมก็กำลังให้เขาแพร่ออกไป ก็มีเอกสารส่งมา มีหนังสือส่งมาจากภาคใต้ ก็มีของกลุ่มชาวเทพาอีกกลุ่มหนึ่ง ก็ส่งหนังสือมาบอกว่ามีคนประมาณ 5 หมื่นคน สนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้านี้ เพื่อเห็นกับประโยชน์ส่วนรวม แล้วก็ในพื้นที่ จะให้ผมฟังใครล่ะครับ ผมก็ฟังทั้ง 2 ข้าง ฝากในพื้นที่ไปหาข้อมูลมาด้วย
เพราะทุกคนก็คือคนไทยทั้งสิ้นนั่นแหละ จะพุทธ มุสลิม อะไรต่างๆ ก็คนไทยทั้งสิ้น ผมมองอย่างนี้ตลอด อย่าไปบิดเบือน กลายเป็นว่าผมผลักคนเหล่านี้ไปอยู่ทางโน้น อะไรทำนองนี้ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นนะ ที่ผ่านมาผมก็บอกมาตลอด ผมต้องทำให้คนทั้ง 70 ล้าน แต่คน 70 ล้าน นั้นก็ต้องเคารพกฎหมาย เคารพกฎระเบียบบ้าง ไม่อย่างนั้นเดือดร้อน แล้วก็ร้องกันไปทุกที่
ก็มีคนมาใช้ประโยชน์อีกนั่นแหละ เอาไปบิดเบือน เอาไปเป็นปัญหาการเมือง จนกระทั่งสิ่งดีๆ ไม่ได้รับความสนใจ ที่ผ่านมาเป็นอย่างนี้ตลอด อะไรที่ดีๆ ไม่ค่อยออกเป็นข่าว ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเรื่องความขัดแย้ง เรื่องปัญหาการเมือง เรื่องประชาธิปไตย เรื่องอะไรเหล่านี้จำเป็น ถูกต้องล่ะ แต่วันนี้ขอก่อนได้ไหมว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไรนะครับ จะไม่ทำผิดกฎหมายกันได้อย่างไร
รัฐบาลพร้อมจะตอบคำถามทุกคำถามนะครับ แล้วก็ฟังทุกคน เพียงแต่ว่า หลักการประชาธิปไตยว่าอย่างไร นักการเมืองก็กรุณาไปดูด้วยนะ ว่าประชาธิปไตย เป็นอย่างไร วันนี้ทุกคนก็มารุมว่ารัฐบาล รุมว่านายกรัฐมนตรี ว่าไม่ฟังใคร ผมฟังทุกอัน ข้อมูลเต็มไปหมด ไปดูในห้องทำงานซิ เอกสารเป็นตั้งๆ ผมอ่านทุกตัว ใครเขียนอะไรมาผมก็อ่าน ศูนย์ดำรงธรรมส่งมา ผมก็อ่าน แล้วผมก็สั่งการให้หน่วยงานลงไปแก้ไข
บางทีการแก้ไขก็ ต้องชี้แจงว่ากฎหมายอยู่ตรงไหน กฎระเบียบว่าอย่างไร แต่ก็ไม่ค่อยฟัง ทุกคนก็จะอยากได้อย่างที่ตัวเองต้องการ กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย กลุ่มใหญ่ ท่านก็ต้องไปหาสรุปมาให้ได้นะครับ ในพื้นที่สำคัญที่สุดนะครับ
แล้วก็สังคม โซเชียลมีเดียนอกพื้นที่ก็ไปกับเขาด้วย ทั้งๆ ที่บางทีก็ไม่รู้เรื่องว่าข้อมูลเขาเป็นอย่างไร มองแต่เพียงว่า เพื่อผลประโยชน์ เอื้อประโยชน์ ทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องดูแลคนจน แล้วก็ไปยังไงล่ะครับ คิดแบบผมบ้าง แล้วจะหาทางได้เอง โดยปราศจากความขัดแย้ง ทุกคนต้องช่วยกันนะครับ
ขอให้ทุกคนมั่นใจ ผมยืนยันว่าผมจะเร่งดำเนินการให้ได้ โดยคำนึงถึงกฎหมาย กฎระเบียบ อันไหนที่ไม่เป็นสากลไม่ทันสมัย ก็ต้องแก้ไข ก็ต้องช่วยผม ไม่อย่างนั้นทุกคนไม่ต้องการอะไรเลย ต้องการเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ได้
