“ณัฐวุฒิ” ชี้ จุดยืนไม่รับร่างรธน.เพราะเชื่อว่าแก้ปัญหาไม่ได้-ขยายความขัดแย้ง เชื่อ สุดท้ายอยู่ที่ปชช.
เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. กล่าวว่า การประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของตนนั้นอยู่บนหลักคิดว่า หัวใจหลักของปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาคือความไม่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้นเมื่อเนื้อหาในร่างแรกที่กรธ.สรุปมามีความชัดเจนว่าขัดต่อหลักการประชาธิปไตย จึงเชื่อว่านอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังขยายความขัดแย้งให้ลุกลามออกไปอีกด้วย รูปธรรมอย่างง่ายที่จะชี้ให้เห็นคือ เมื่อคสช.เองก็ยอมรับว่าการยึดอำนาจเมื่อปี 2549 เป็นเรื่องเสียของ แต่เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กลับเอาของเสียจากฉบับที่แล้วแปลงร่างมาใส่ไว้เกือบหมด แถมเพิ่มดีกรีให้สวนทางกับประชาธิปไตยมากขึ้นอีกด้วย แล้วจะไม่เสียของอีกครั้งได้อย่างไร
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยกับนายกฯว่า สุดท้ายต้องให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสิน เเต่เมื่อท่านประกาศแบบนี้ก็ต้องทำให้สนามประชามติเปิดกว้าง มีพื้นที่ให้คนเห็นต่างแสดงความเห็น ไม่ปิดกั้นการรณรงค์ทั้งฝ่ายรับและไม่รับ และไม่ใช้อำนาจรัฐกดดันบุคคลหรือองค์กรใดๆ ให้มีมติตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ ทั้งนี้ ประชามติที่ชอบธรรมต้องดำเนินการโดยประชาชนทุกฝ่ายมีเสรีภาพเท่าเทียมกัน ไม่มีนักการเมืองคนไหนไปบังคับประชาชนได้หรอก มีแต่เผด็จการเท่านั้นที่จะลงมือทำ อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิกบนเรือแป๊ะบางคนที่สลับกันออกมาตอบโต้ฝ่ายการเมืองและชี้ว่าเป็นตัวปัญหานั้น อยากฝากข้อคิดว่า ทุกวิชาชีพประกอบด้วยคนทั้งที่มีและไม่มีคุณภาพ เพียงแต่นักการเมืองจะเข้าทำหน้าที่ต้องผ่านการคัดกรองจากประชาชน สำหรับตนหากจะเป็นคนไร้คุณภาพจากการตัดสินของประชาชนก็ต้องยอมรับ แต่ยังน่าภูมิใจกว่าการเป็นคนคุณภาพของอำนาจเผด็จการ
“ปกติคนถูกหวยบนดิน ใต้ดิน เขาจะดีใจ ประกาศหัวซอยท้ายซอย แต่คนถูกหวยรัฐประหารควรสงบปากสงบคำบ้าง บ้านเมืองนี้ถ้าใครหาประโยชน์อันมิชอบจากระบอบประชาธิปไตยก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่พวกหาประโยชน์จากเผด็จการกลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไร นี่คือความเสียหายของประเทศ ถ้าจะไม่เป็นประชาธิปไตยก็เป็นเผด็จการเสียให้ชัดไปเลย ดีกว่าอ้างประชาธิปไตยแต่สร้างกลไกกดทับอำนาจประชาชนไว้เหมือนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้” นายณัฐวุฒิกล่าว