เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มีนาคม นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงร่างรัฐธรรมนูญนายมีชัย ฤชุพันธุ์ว่า หากองค์กรที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ปฏิบัติก็ไม่ประสบความสำเร็จ และที่ผ่านมามีการอ้างว่า การทุจริตลดลงในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะทั้งก่อนและหลังรัฐประหารก็เท่ากันคืออยู่ที่ตัวเลข 3.8 โดยเมื่อไม่นานมานี้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีก็ระบุว่า การทุจริตไม่ได้ลดลง จึงอยากให้ดูตัวอย่างที่ควรปรับปรุงเพิ่มขึ้น โดยแก้ที่ตัวบุคคลและองค์กรที่รับผิดชอบ เช่น กรณีการทุจริตยาปราบศัตรูพืชซึ่งมีความชัดเจนในการลงโทษคนที่ทำผิดบางส่วน แต่กลับไม่ดำเนินการคนที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งช่ติ(สนช.)ในปัจจุบัน และไม่มีการดำเนินการกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดเลย
นายวิลาศ กล่าวว่า ขอเสนอให้มีการกำหนดกรอบการปฏิบัติงานขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตไม่ใช่กำหนดเฉพาะนักการเมือง แต่ให้รวมกับข้าราชการทั้งพลเรือนและทหารกับตำรวจด้วย ยกตัวอย่างคดีที่มีการตัดสินเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2558 กรณีเหมืองแร่แบร์ไลต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่อ้างว่าจะมีผลพลอยได้เป็นแร่เหล็กเมื่อสอบสวนพบว่า ได้แร่เหล็กมากกว่าแร่แบร์ไลต์ที่ขออนุญาติทำเหมืองถึง 50 เท่า โดยในการลงพื้นที่กลับไม่พบการขุดเจาะหาแร่แต่อย่างใด จึงมีคำถามถึงคนอนุญาตว่าเรื่องเช่นนี้เป็นไปได้อย่างไร กรณีนี้มีการดำเนินคดีถึงศาลฎีกามีคำตัดสินลงโทษคนที่ทำเหมืองเท็จ 8 ปี แต่เรื่องที่ส่งไปให้ ป.ป.ช.พิจารณากลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
“ผมเสนอให้ยกเลิกธนบัตรเดิม พิมพ์ธนบัตรใหม่เพื่อปราบการทุจริต โดยกำหนดระยะเวลาให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศที่มีเงินไปแลกธนบัตรใหม่ภายในเวลาหนึ่งปี ไม่แลกถือว่าสละสิทธิ์ ผมจะดูว่าคนที่โกงแล้วบอกว่าไม่ได้โกงจะทำกันอย่างไร และถ้าใครแลกเกินสองล้านต้องชี้แจงที่มาที่ไปของเงิน ถ้าเกินสิบล้าน หรือมีเงินฝากเกินสิบล้านทุกบัญชีรวมกัน หน่วยงานที่รับแลกต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบจำนวนเงินเพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ คนที่ไม่กล้าแลกจะมีมากหลายล้านล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถนำมาสร้างรถไฟความเร็วสูงโดยไม่ต้องกู้เงิน” นายวิลาศ กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
