“เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า”โต้“ก.ควบคุมโรค” บิดเบือนงานวิจัย ตปท.

“เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า” แจง “ก.ควบคุมโรค” บิดเบือนงานวิจัย ตปท. ยกผลวิจัยตปท.หลายฉบับยันชัดอันตรายน้อยกว่า “บุหรี่มวน” ชี้ โลกจัดเป็นสินค้าถูก กม. หวังภาครัฐไทยเห็นคล้อยตาม ปท.พัฒนาแล้ว เพื่อตีกรอบป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” กล่าวถึงกรณีที่ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ไทยหลายราย ออกมาระบุถึงอันตรายและสารพิษจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ออกมาจาก สธ. หลายเรื่องค่อนข้างคลาดเคลื่อนและสวนทางกับผลวิจัยของต่างประเทศ โดยเฉพาะข้อมูลจากทาง กรมควบคุมโรค ที่ย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ โลหะหนัก จนถึงยาดองศพ และแนะเยาวชนและผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ไม่ควรลองใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน อ้างผลการตีความวิจัยแบบผิดๆ ตรงข้ามกับงานวิจัยในต่างประเทศ พยายามปิดโอกาสของผู้สูบบุหรี่ที่จะได้เข้าถึงทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่า

“ข้อมูลที่บอกว่าในควันบุหรี่มีสารที่เกิดจากการเผาไหม้ เช่นสารโลหะหนักพวกโครเมี่ยม นิกเกิล และฟอร์มาลดีไฮด์ มากกว่าไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้านั้น รายงานของกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ปี 2558 ออกมาชี้แจงประเด็นฟอร์มาลดีไฮด์แล้วว่าเป็นการทดลองที่นำเอานิโคตินเหลวไปผ่านความร้อนสูง ซึ่งไม่เคยมีรายงานใดระบุว่าการใช้งานจริงของบุหรี่ไฟฟ้าจะเกิดความร้อนสูงขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าภาครัฐมีความตั้งใจในการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับประชาชน เราถึงได้พยายามเรียกร้องให้มีการพูดคุยผลการศึกษาของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นกลาง” นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ กล่าวต่อว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง อังกฤษ สหภาพยุโรปกว่า 27 ประเทศ นิวซีแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกา บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมายและหลายประเทศสนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ช่วยลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ หากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายจริงอย่างที่กรมควบคุมโรคไทยกล่าวอ้าง เหตุใดบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ทำไมรัฐบาลประเทศเหล่านั้นถึงยินยอมให้คนในประเทศเขาใช้ได้ ถึงเวลาแล้วที่เราน่าจะเอาข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีอยู่ทั้งหมดมาพูดคุยกันอย่างจริงจังซักที ไม่ใช่ออกสื่อโต้กันไปกันมาแบบนี้ รัฐบาลจะได้มีแนวทางที่อยู่บนพื้นฐานของผลวิจัยวิทยาศาสตร์มาช่วยกำหนดนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมและช่วยกันป้องกันเด็กและเยาวชนของเราได้จริง

Advertisement

ด้านนายอาสา ศาลิคุปต์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าฯ กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าฯ ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงผลการวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า กับคณะอนุกรรมาธิการพาณิชย์ฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนประกาศกระทรวงพาณิชย์(พณ.) ในการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเราได้ให้ข้อมูลพร้อมผลการวิจัยกับคณะอนุกรรมาธิการฯ ไปแล้วว่า กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ลอนดอน และสถาบันมะเร็งอังกฤษ ต่างยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษที่ออกมาน้อยกว่าบุหรี่มวนมาก และผลการวิจัยจำนวนมากยืนยันว่าไม่ได้เป็นตัวดึงดูดเด็กเยาวชนหรือผู้ไม่สูบบุหรี่ ทุกวันนี้แม้จะยังไม่มีข้อมูลผลกระทบระยะยาว แต่รัฐบาลหลายประเทศก็อนุญาตให้ใช้ โดยมีกฎหมายควบคุมอย่างถูกต้อง ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน แถมยังช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศได้อีกด้วย ซึ่งท่าทีของที่ประชุมมีความเป็นกลางและรับฟังข้อมูลความเห็นของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และจะทำสรุปเพื่อพิจารณาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image