โฆษก กห.ยัน ‘บิ๊กป้อม’ ชายชาติทหารไม่หวั่นปมนาฬิกาหรู พร้อมแจงตามกฎหมาย

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การทำงานในตำแหน่ง รมว.กลาโหม 3 ปีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ท่านทำงานหนัก ด้านนโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ ค่อนข้างจะดี ในกรอบอาเซียน จะเห็นว่าความสัมพันธ์ไทยกับประเทศรอบบ้านอาเซียน ค่อนข้างดี เพราะ พล.อ.ประวิตรเปรียบเหมือนพี่ใหญ่ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมา 2 สมัยแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการประชุม รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ก็ทำให้เกิดความแนบแน่นมากขึ้น ทำให้เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีปัญหาการปะทะกัน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไว้วางใจมอบหมายงานให้พล.อ.ประวิตร ทำค่อนข้างมาก เลยไปถึงการแก้ไขปัญหามาตรฐานการบิน การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป. 5) โดยใช้เหล่าทัพเข้าไปผลักดัน ขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหา และทำให้ระบบเกิดความเข้มแข็ง

พล.ท.คงชีพกล่าวต่อว่า อยากให้กลับไปทบทวนว่าในอดีตใครได้อนุมัติปล่อยให้เครื่องบินของสายการบินเอกชนได้ทำการบินโดยไม่ผ่านมาตรฐาน การอนุมัติให้เรือประมงสามารถทำการจับปลาได้อย่างอิสระ ซึ่งสังคมต้องไปดูว่าใครได้ประโยชน์จากกระบวนการอนุมัติ ส่วนที่มองว่าอาจจะเกิดจากการที่ คสช.ยึดอำนาจช่วงต้นนานาชาติจึงเข้ามาสร้างมาตรฐานเหล่านี้นั้น ตนมองว่าปัญหามันเกิดอยู่ใต้โต๊ะ จนถึงธงแดง ถ้าไม่แก้ก็ดิ่งเหว จึงเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพราะที่ผ่านมามีการปล่อยปละละเลย

“ถือเป็นเรื่องหลักๆ ที่ท่านทำงานหนักพอสมควร ท่านนั่งเป็นประธานคณะกรรมการฯ หลายชุด คนก็ไม่มองเรื่องที่ท่านทำ โดยเฉพาะเรื่องปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทุกวันนี้คุณเรียกร้องสิทธิเสรีภาพกัน แต่คุณสามารถเข้าพื้นที่อื่นที่เป็นพื้นที่ของ กำนันโน่น กำนันนี่ได้หรือ ภายใต้กฎหมายเดียวกันคุณก็เข้าไม่ได้ แต่ตอนนี้ คสช.เข้าไปจัดระเบียบ ทั้งอิทธิพลต่างชาติที่เข้ามาเกลื่อนกราดกันอยู่ ทั้งอิทธิพลต่างประเทศ อาวุธสงคราม ยาเสพติด ที่ทำกันมา เรื่องการจัดระเบียบสังคมถามว่าใครกล้าทำ เพราะบางอย่างกระทบเรื่องมวลชน ถ้าไปกระทบจุดนี้มีผลต่อฐานเสียง เราทุ่มเททรัพยากรไปมากพอสมควร กับการใช้กำลังทหาร กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำงานกันอย่างหนักหนาสาหัส 3 ปีเราทำอะไรที่ค่อนข้างจะเห็นผล และ ค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งแน่นอนว่าจากนโยบายการจัดระเบียบสังคม ย่อมมีทั้งผู้ที่ชอบและไม่ชอบ มีผู้ที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ แต่ คสช.มองเรื่องประชาชนที่ใช้พื้นที่สาธารณะได้ประโยชน์เป็นหลัก”

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร เกรงหรือไม่กลุ่มผู้เสียประโยชน์จะหาช่องทางในการโค่นล้ม พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า เป็นทหารมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่กลัวอะไรแล้ว ถ้ายืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อส่วนรวม และสังคม เสริมสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้ประเทศ ถือเป็นหน้าที่ที่เราปลูกฝังอุดมการณ์มา ดังนั้น จะไปกลัวอะไรหรือกลัวใคร เพราะเกิดมาตายครั้งเดียว พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้กังวลอะไร ก็ทำงานต่อไป สังคมวันนี้เปิดกว้าง ได้รับข้อมูลข่าวสารรอบด้านมากขึ้น คิดเองได้ ถ้าไม่มีใคร ยุยง ปลุกปั่น สร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชังกัน

Advertisement

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ นาฬิกาหรู ที่ตกเป็นกระแสโจมตีนั้น พล.ท.คงชีพกล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตรก็ว่าไปตามกฎหมาย ก็ต้องหาทางออกในเรื่องกฎหมาย ส่วนจะมีผลต่อทำงานหรือไม่นั้น ตนคิดว่าก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ที่เวลามีคนนินทาในทางที่ดีบ้าง หรือไม่ดีบ้าง ย่อมมีผลกระทบต่อจิตใจ และความรู้สึกบ้าง เพราะมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ แต่ในฐานะที่ท่านเป็นทหาร ก็ต้องยืนหยัดทำหน้าที่ต่อไป ถ้าเห็นว่าสิ่งที่ทำ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ยังเดินหน้าเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติก็ทำไป อีก 10 เปอร์เซ็นต์ที่มีปัญหา ก็ต้องแก้ไขต่อไป

“เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประวิตร เข้มแข็งพอที่จะเดินหน้า ใช้โอกาสนี้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และประเทศชาติต่อไป ส่วนสิ่งใดที่เป็นเรื่องส่วนตัวของท่านก็ต้องชี้แจงแก้ไขปัญหาต่อไป คิดว่าเป็นอุปสรรคเล็กน้อย สิ่งที่ทำมาก็ถือว่าเป็นคุโณปกรณ์กับประเทศชาติ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามว่า คิดว่าการขยายผลประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นขบวนการล้ม พล.อ.ประวิตร เพื่อทำให้ คสช.อ่อนแอหรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวว่า มีแน่นอน ในเมื่อเราเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาไปสู่งานที่เหมือนงานการเมืองที่ทำอยู่ขณะนี้ ก็ย่อมกระทบกับกลุ่มการเมืองที่เสียประโยชน์ เมื่อกระแสออกมาแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องที่โจมตีกันทางการเมือง ก็ถือเป็นเรื่องที่มาจากการเมือง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการที่มีข่าวว่าท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการตั้งพรรคทหารนั้น ยืนยันว่าไม่จริง อีกทั้ง พล.อ.ประวิตรไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร เป็นมิตรกับทุกคน เป็นคนที่พูดคุยได้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ไม่หักใคร โดยคำนึงถึงเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นหลัก

Advertisement

เมื่อถามว่า จะใช้ว่าพล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดการ คสช.ได้หรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวว่า “ไม่มีหรอก ผู้จัดการ คสช. อย่าใช้คำนั้น แต่ประเทศไทยมีหลายกลุ่ม หลายพวก ก็ต้องดึงมาแก้ไขปัญหา ท่านก็เป็นคนที่ประสานได้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image