‘สามารถ’หวั่นกระทบเชื่อมั่น จี้’บิ๊กตู่’ปลดล็อกให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 2 มกราคม นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการกำหนดให้เลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนเลือกตั้ง ส.ส. และกำหนดคุณสมบัติในลักษณะเดียวกับ ส.ส. ว่าคนที่จัดการประเทศนี้ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ เขาคงคิดทำนองว่า ถ้าให้เลือกตั้ง ส.ส.ก่อน แล้วไปเลือกตั้งท้องถิ่นก็กลัวว่าคนท้องถิ่นที่จะได้จะเป็นคนของ ส.ส. ดังนั้น วันนี้เขาจึงกลับกัน โดยการให้เลือกท้องถิ่นก่อน เพื่อปลอดอำนาจการเมือง ทั้งที่จริงแล้ว ที่ผ่านมาไม่ใช่ คนของท้องถิ่นมีพัฒนาการมาจากการเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ไม่ได้มี ส.ส.ไปสั่ง หรือไปเป็นลูกพี่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกอะไรก่อนหรือหลัง ส่วนตัวมองว่าไม่มีความหมาย ส่วนเรื่องคุณสมบัติ มองว่าไม่มีอะไรแตกต่างกัน หรือเข้มไปกว่ากัน แต่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การยื่นแสดงการเสียภาษี เรื่องของวุฒิการศึกษา ที่อยู่ ฯลฯ ซึ่งคิดว่าควรเอาแค่หลักๆ และอย่าเขียนอะไรที่เป็นการปิดกั้น เพราะสุดท้ายอยู่ที่ประชาชนเป็นคนตัดสินใจเลือก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากยังมีความขัดแย้ง หรือยังทะเลาะกันอาจจะต้องคุมสถานการณ์ไว้ก่อน แบบนี้จะทำให้ความน่าเชื่อถือของนายกฯลดลงหรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า ต้องถามกลับว่า วันนี้มีสถานการณ์อะไรที่ทำให้รู้สึกว่าขัดแย้งกัน ทะเลาะกัน หรือไม่ปรองดองกัน

“เห็นก็มีแต่สถานการณ์ที่คิดไปเอง เพราะพวกเรานักการเมืองอยู่กันเรียบร้อยดี อาจจะมีบางคนที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะดุเดือด แต่นั่นก็เป็นบุคลิกส่วนตัว ไม่ใช่การขัดแย้ง ดังนั้น อย่าเอามาอ้างเป็นเงื่อนไข อย่าให้การเลือกตั้งตามโรดแมปเลื่อนออกไปอีก เนื่องจากวันนี้เราอยู่กันอย่างผิดปกติ อยู่ใต้การปกครองที่นานาประเทศไม่ยอมรับ ดังนั้น วันนี้ขอให้ท่านอย่าตีขลุมโดยการคิดเอาเอง เพราะสถานการณ์จริงๆ ไม่ได้เป็นแบบที่ท่านคิด นอกจากท่านเองจะมีวาระซ่อนเร้นที่เห็นว่าตัวเองยังเพลี่ยงพล้ำอยู่ จึงอ้างสถานการณ์เช่นนี้ที่เป็นนามธรรม แต่ถ้าท่านเห็นแก่บ้านเมือง ท่านก็อยู่มา 4 ปีแล้ว ก็เห็นอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้พูดมาตลอด พูดมาตั้งแต่ตอนที่ท่านเดินทางไปอเมริกา ว่าหากท่านไม่ปฏิบัติตามที่ท่านพูดไว้บนเวทีระดับโลก จะกระทบต่อความเชื่อมั่นและความเชื่อถือในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำ และยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อคนไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำแล้วก็จะกระทบไปยังส่วนอื่นด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มองว่าการปลดล็อกให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เท่ากับเป็นการปลดล็อกให้เศรษฐกิจของบ้านเมืองเดินหน้าไปได้ด้วย” นายสามารถกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image