“ชูศักดิ์” แนะหาก“บิ๊กตู่”บอกเป็นนักการเมืองต้องฟังเสียงปชช. เชื่อประกาศจุดยืนสอดคล้องที่มีพรรคสนับสนุน มองเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคใหญ่รณรงค์ไม่เอานายกฯ คนนอก กั๊กสองพรรคใหญ่จับมือแต่ชวนจับมือปฏิเสธนายกฯ คนนอกดีกว่า เผยเตรียมยื่นศาลรธน.ปมคำสั่ง 53/60 สัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่สมาคมนักข่าวฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประกาศว่าตัวเองเป็นนักการเมืองว่า ถ้ามองในแง่ดีก็ดีเพราะจะได้ชัดเจนเสียทีว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์เป็นนักการเมือง แต่ฟังไปฟังมาก็ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ หมายความอย่างนั้นหรือไม่เพราะวันรุ่งขึ้นพล.อ.ประยุทธ์ออกมาระบุให้สื่อแปลความหมายเรื่องนี้ดีๆ อย่างไรก็ตาม หากพล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่าตัวเองเป็นนักการเมืองก็ต้องเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง ภาคประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่ใช่ใครวิจารณ์ไม่ได้เหมือนที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ออกมาพูดว่า เป็นนักการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้งมีนัยยะอะไรหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นพรรคการเมืองบางพรรคที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ต่อไป ดูแล้วก็อาจสอดคล้องกันในประเด็นเหล่านี้ แต่ไม่อยากให้คิดมาก ถ้ามองในแง่ดีก็จะได้ชัดเจนเสียทีว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ แต่เข้ามาเป็นนักการเมือง
นายชูศักดิ์ กล่าวกรณีที่นักวิชาการมองว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเล่นการเมืองจะทำให้เหลือแค่ขั้วที่เอาคสช.และขั้วที่ไม่เอาคสช.ว่า แนวโน้มของพรรคการเมืองขณะนี้โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ คงเห็นร่วมกันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการรณรงค์หรือมีจุดยืนไม่สนับสนุนนายกฯ คนนอก และจะได้รู้เช่นกันว่าท้ายที่สุดจะมีพรรคการเมืองใดประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเท่าที่ฟังขณะนี้ส่วนใหญ่ไม่มีพรรคการเมืองใดสนับสนุนนายกฯคนนอก ส่วนข้อเสนอของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอให้ 2 พรรคใหญ่จับมือกันนั้น ยังไม่อยากให้คิดไปถึงจุดนั้น แต่เบื้องต้นขอเชิญชวนทุกพรรคจับมือกันเพื่อปฏิเสธนายกฯ คนนอก
นายชูศักดิ์ กล่าวกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยืนศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 53/2560ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมประเด็นที่เห็นว่าถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพ โดยจะยื่นในนามพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าทางพรรคจะมีการหารือ และคาดว่าจะยื่นได้ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้มองว่าการใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ฉบับดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมและเห็นว่าที่ผ่านมามีการใช้คำสั่งมาตรา 44 มากพร่ำเพื่อเกินความจำเป็น
