ไม่ว่าคำประกาศจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า “ผมเป็นนัก การเมือง” จะมาจากแรงผลักรุนของอะไร
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็น “เรื่องดี”
หากตรวจสอบเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ เสียงจากพรรคชาติไทยพัฒนา เสียงจากพรรคเพื่อไทย
ล้วน”ขานรับ”อย่างพร้อมเพรียง
เพราะว่าคำประกาศ “ผมเป็นนักการเมือง” แม้จะมิได้เป็นเรื่องแปลก หรือใหม่ แต่ก็มีบทบาทและแรงสะเทือนอย่างกว้าง ขวางและลึกซึ้งเท่ากับเป็น “การปลดล็อก” ในทาง “ความคิด”
ทั้งความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งความคิดของบรรดา “กองเชียร์” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อาการ “ตาสว่าง”ในทางการเมืองจึงได้บังเกิด
แท้จริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น”นักการเมือง”ตั้งแต่เริ่มคิดในเรื่อง “รัฐประหาร” มาแล้ว
หากถือ “ข้อมูล” จากปาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
กระบวนการรัฐประหารได้มีการ “สมคบคิด” มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มาแล้ว
นั่นหมายถึงสถานะแห่งความเป็น “นักการเมือง”
เหมือนกับที่บรรดาทหารบก ทหารเรือ และพลเรือนร่วมกันขบคิดและก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อเดือนมิถุนายน 2475
ถามว่าท่านเหล่านั้นเป็น “นักการเมือง” หรือไม่
ไม่ว่านักรัฐประหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2490 เมื่อเดือนกันยายน 2500 เมื่อเดือนตุลาคม 2519 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534
พลันที่ “รัฐประหาร” พวกท่านก็เป็น “นักการเมือง”
ในความเป็นจริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ชื่อว่าเป็น “นักการเมือง” ทันทีที่สมคบคิดในเรื่อง “รัฐประหาร”
เป็นมาเรื่อย เป็นมาตลอด
เพียงแต่เพิ่งมาเปิดปากเปล่งคำ “ผมเป็นนักการเมือง” อย่างเปิดเผยเมื่อเดือนมกราคม 2561
เพื่อยืนยันและให้ความหมายในการที่จะเข้าไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งหากว่ามีการเลือกตั้ง
เท่ากับรับรองว่า “พรรคทหาร” เริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว
