ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นาฬิกาตาย
จังหวะก้าวของ คสช. ในเรื่องรัฐธรรมนูญน่าสนใจมาก
โดยเฉพาะ “ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้” เรื่องรัฐธรรมนูญ
ที่บอกว่า “ปฏิเสธไม่ได้” เพราะถ้า “มีชัย ฤชุพันธุ์” ปฏิเสธ
พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศว่าจะยื่นใหม่เรื่อยๆ จนกว่าจะพิจารณา
ความน่าสนใจอยู่ที่คนลงชื่อในหนังสือฉบับนี้
เพราะไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่เป็น พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เลขาธิการ คสช.
ซึ่งมีอีกตำแหน่งหนึ่งคือ “ผู้บัญชาการทหารบก”
ดูเผินๆ ข้อเสนอนี้เหมือนไม่ใช่ข้อเสนอจาก “คสช.”
แต่เป็นข้อเสนอจาก “กองทัพ”
ชัดเจน และชัดเจน
เนื้อหาของหนังสือฉบับนี้
มีพลานุภาพตามที่โฆษกกรรมาธิการฯ บอกจริงๆ
เพราะอ่านแล้วแทบหงายหลังตกจากเก้าอี้
ช่างกล้าหาญมาก
กล้าย้อนยุคกลับไปปี 2521
สมัย “ประชาธิปไตยครึ่งใบ” ยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่มีกองทัพหนุนหลัง
นายกฯ คนนอก…ได้
มี ส.ว. มาจากการแต่งตั้งเกือบครึ่งสภาฯ
ส.ว. ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้
ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็น “ข้าราชการ” แต่เป็น ส.ว. ได้ ฯลฯ
ว่ากันว่า ถ้า “มีชัย” ยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญตามใจ คสช. ทั้งหมด
ลงประชามติผ่าน
เลือกตั้งกันตามกติการัฐธรรมนูญ คสช.
“ลิฟ แวน วิงเคิล” ที่นอนหลับไปตั้งแต่ปี 2521
ตื่นขึ้นมาในปี 2560
คงรู้สึกว่าเพิ่งหลับไปคืนเดียว
เพราะผ่านไปเกือบ 40 ปี
แต่ “ประชาธิปไตย” ของไทยยังเหมือนเดิม
ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ประเทศเมียนมาที่อยู่ใต้ร่มเงาเผด็จการมานานกว่า 50 ปี เพิ่งได้ประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งคนแรกในประวัติศาสตร์
สวนทางกับประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง
นี่คือ สิ่งที่ “ออง ซาน ซูจี” รอคอยมาทั้งชีวิต
ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ ต่อสู้กับอำนาจเผด็จการทหารมายาวนาน
เธอเคยกล่าวประโยคหนึ่งที่กินใจคนทั้งโลก
…”ความกล้าหาญ” ไม่ได้ใช้กับคนที่มีอาวุธและสามารถทำตามที่ตนต้องการได้
“แต่ใช้กับคนที่ปราศจากอาวุธ แต่ทำสิ่งที่ตนคิดว่าชอบธรรม”
บางทีเราอาจเห็น “ความกล้าหาญ” ที่แท้จริงเกิดขึ้นในเมืองไทย
ในการลงประชามติรัฐธรรมนูญ