09.00 INDEX ทิศทาง สมเด็จพระสังฆราช คสช. และรัฐบาล สรุปแล้ว

กรณี “สมเด็จพระสังฆราช” ไม่น่าจะซ้ำรอยเดียวกันกับ
กรณีคำสั่ง “ปลดบอร์ด สสส.” จำนวน 7 คน
เพราะว่า “เข็ด” แล้ว

เพราะว่า การออกมากล่าวคำ “ขอโทษ” ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ในที่สุด ก็แทบไม่มีประโยชน์
กระนั้น กรณี “สมเด็จพระสังฆราช” ก็ “อ่อนไหว”

เพราะมีบุคคลระดับ นายไพศาล พืชมงคล เข้ามาแสดง เพราะมีบุคคลระดับ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เข้ามาแสดง

ทั้งยังมีระดับ พระพุทธะอิสระ ป้วนเปี้ยนอยู่ด้วย

Advertisement

นายไพศาล พืชมงคล นั้นก็รู้อยู่แล้วว่าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี
ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทั้งยังเขียน “เฟซบุ๊ก” ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในบรรดา “แฟนานุแฟน” น้อยใหญ่
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก็มิใช่ “ตะเกียง”ขาด”น้ำมัน”

แม้วันนี้มิได้มี “ตำแหน่ง” ใดๆ ในทางการเมือง แต่ก็เคยเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
และเป็นคนสำคัญใน “กลุ่ม 40 ส.ว.”

Advertisement

อันหมายถึงสัมพันธ์กับ นายสมชาย แสวงการ สัมพันธ์กับ
นายตวง อันทะไชย ซึ่งอยู่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)

ระดับนี้แล้ว “ประมาท” ไม่ได้

ยิ่ง พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ยิ่งมากด้วยลูกศิษย์ลูกหา
ไม่ว่าทหาร ไม่ว่าตำรวจ ไม่ว่าพลเรือน “ครบครัน”

การผลักดันในเรื่องตรวจสอบ “รถหรู” กระทั่งกลายเป็นเรื่องอึกทึกครึกโครมก็มาจาก “ท่าน” มิใช่หรือ
คสช.ต้อง “เกรงใจ” รัฐบาลยิ่งต้อง “เกรงใจ”

สัมผัสจากท่าทีของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเห็นชัด
สัมผัสจากท่าทีของ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นชัด

เห็นชัดว่า “สุขุม” และ “รอบคอบ”

กระนั้น คสช. และรัฐบาลก็มี “ความจำกัด”

เมื่อพิจารณากรณี “สมเด็จพระสังฆราช” อย่างรอบด้าน
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะ “สกัด” ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะ “ขัดขวาง”

ประการ 1 นามแห่ง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญโญ)กลายเป็นบทสรุปอย่างเป็นเอกภาพ
เป็น “เอกภาพ” ภายใน “มหาเถรสมาคม”

ไม่เพียงแต่สมเด็จพระราชาคณะสาย”มหานิกาย”จะเห็นด้วย
หากนามนี้เสนอโดยสมเด็จพระราชาคณะสาย”ธรรมยุต”

ยืนยัน “คณะสงฆ์” เป็น “เอกภาพ”

ขณะเดียวกัน ประการ 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมาก “มติ” นี้มิได้กระทำการอย่างลับๆล่อๆ
หากแต่เข้าทาง “ตรอก” ออกทาง “ประตู”

นั่นก็คือ แอบอิงอยู่กับบทบัญญัติแห่งมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535
จะ “ตีความ”อย่างไรก็ “ออก” มาอย่างนี้

นั่นก็คือ เป็นการประชุมหารือกันโดย “มติมหาเถรสมาคม” จากนั้นนำมตินั้นเสนอต่อ “รัฐบาล”
รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ท่วงทำนองอันมาจาก นายวิษณุ เครืองาม ก็ดี ท่วงทำนองอันมาจาก นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ก็ดี
เสมอเป็นเพียงการ “ซื้อเวลา”

อย่างน้อยก็เพื่อแสดงให้ “พวกเดียวกัน” รับรู้ว่า “สนใจ”และพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่

แต่ก็ทำได้เพียงการ “ซื้อเวลา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image