ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นเป็นส่วนใหญ่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.บอกว่า มีประมาณ 261 มาตรา แต่ยังไม่รวมบทเฉพาะกาล เนื้อหาสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญคือป้องกันการทุจริต ตีความตามความหมายที่นายมีชัยบอก หมายถึงป้องกันคนทุจริตเข้ามาอยู่ในแวดวงการเมือง และป้องกันมิให้คนในแวดวงการเมืองทุจริต โดยให้ผู้ตรวจสอบมีอำนาจมากขึ้น ลดทอนอำนาจของนักการเมืองให้อยู่ในกรอบ และมีบทบัญญัติโทษแก่นักการเมือง
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง แต่รายละเอียดวิธีการเลือกตั้งยังไม่ปรากฏชัด มี ส.ว.มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อม ผ่านทางกลุ่มชมรมสมาคม 20 กลุ่ม มีองค์กรอิสระที่มีอำนาจมาก เช่น ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจชี้ความชัดเจนเนื้อความในมาตรา 7 มอบอำนาจให้ ป.ป.ช.หยิบยกเรื่องทุจริตขึ้นมาพิจารณาโดยไม่ต้องมีผู้ร้อง และให้องค์กรอิสระสามารถร่วมกันส่งคำเตือนให้รัฐบาลหยุดยั้งนโยบายที่จะทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งหากรัฐบาลไม่ยอมและประเทศชาติเกิดความเสียหาย รัฐบาลต้องรับผิดทางแพ่งและอาญา เป็นต้น
นอกจากบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ยังมีบทบัญญัติอื่นๆ อีก ซึ่ง กรธ.สัญญาว่าจะเผยแพร่ตัวบทของร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 มกราคมนี้ แต่ขณะนี้แม้รายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏทั้งฉบับ กลับเกิดกระแสเสียงคัดค้านจากฟากฝั่งนักการเมืองออกมาไม่หยุดหย่อน ทั้งพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และภูมิใจไทย ต่างแสดงความเห็นว่าควรจะมีการพูดคุย เพราะหลายประเด็นมีปัญหา เนื่องจากผู้ร่างรัฐธรรมนูญมองนักการเมืองเป็นศัตรู
ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองเท่านั้นที่มีความเห็นกับร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นข่าว นักวิชาการก็มีความเห็นต่างจาก กรธ. และนับวันเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญจะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจและไม่เห็นภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมด หรืออาจจะเกิดจากข้อกำหนดมาตรา 35 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 และข้อเสนอของ คสช. หรือเป็นสาเหตุใดที่ทำให้เสียงคัดค้านเริ่มดังเหมือนกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เรื่องเช่นนี้น่าคิด และยังมีเวลาปรับปรุง เพื่อให้มั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะได้นำไปบังคับใช้ด้วยความหวังว่าจะนำประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน
