‘ชวลิต’ติงหลักการร่าง รธน.ไม่สนองพระราชดำรัส ร.7 ให้เน้นอำนาจปชช. มากกว่าคณะบุคคล

“ชวลิต”ติงร่าง รธน.เปลี่ยนระบอบการปกครอง และหลักการไม่สนองพระราชดำรัส ร.7 ที่ให้ความสำคัญกับอำนาจของประชาชน มากกว่าคณะบุคคล

วันนี้ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รก.รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอติงร่าง รธน.มีหลักการเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง และยังไม่สนองพระราชดำรัส ร.7 ที่ทรงให้ความสำคัญกับอำนาจของประชาชน มากกว่าคณะบุคคล ซึ่งตนขอให้ความเห็นในทางวิชาการต่อร่าง รธน.ใน 2 ประการ คือ 1.ด้านการเมือง การปกครองตนเห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง จากระบอบ ปชต.เป็นระบอบคณาธิปไตย กล่าวคืออำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ ที่ประชาชนทั่วประเทศเลือกมาเพื่อทำหน้าที่บริหารประเทศและออกกฎหมายบังคับใช้กับคนไทยทั้งประเทศ กลับมาอยู่ภายใต้การกำกับของคณะบุคคลที่ไม่ได้มาจากประชาชน หรือยึดโยงกับประชาชน เช่น องค์กรอิสระ ศาล รธน. และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลักคิดดังกล่าวนั้นแปลงร่างมาจากคปป.ของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ไม่ได้เปลี่ยนหลัก คิดไปจากเดิมแต่ประการใด

การมีอำนาจที่ 4, 5 และ 6 ทับซ้อนอำนาจอธิปไตยทั้งสามที่มีมาแต่ดั้งเดิมนั้น ไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนในโลกเขาทำกัน เว้นแต่ประเทศไทย ซึ่งถ้าเป็นไปตามร่างของ กรธ. ก็จะขัดแย้งกับพระราชปณิธานของล้นเกล้า ฯ ร.7 โดยสิ้นเชิง

2.ในด้านประวัติศาสตร์ ในปี 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งสำคัญ จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบ ปชต.ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดังกล่าว ล้นเกล้าฯ ร.7 ทรงสละพระราชอำนาจ และทรงมีพระราชดำรัสแก่ปวงชนชาวไทยอันทรงคุณค่ายิ่ง ว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร”

Advertisement

ตนอยากจะให้นายมีชัยฯ และกรธ.ทั้ง 21 คน เฉพาะอย่างยิ่งคสช. รัฐบาล ตลอดจนแม่น้ำ 4 สาย ได้ตระหนักถึงพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯ ร.7 ดังกล่าวในฐานะพสกนิกรชาวไทย ว่าผู้มีหน้าที่ควรสนองพระราชดำรัส หรือไม่ ทำไมเมื่อ 84 ปีที่ผ่านมาพระมหากษัตริย์ทรงมีพระเนตร พระกรรณกว้างไกล ให้ความสำคัญกับราษฎรไทยโดยทั่วไป มากกว่า “ผู้ใด คณะใด” แม้ตนจะไม่คาดหวังว่า การอัญเชิญพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯ ร.7 ดังกล่าว จะเปลี่ยนแปลงหลักคิดของผู้มีหน้าที่ในการร่าง รธน.และผู้เกี่ยวข้องได้ แต่ตนหวังว่าประชาชนหรือราษฎรโดยทั่วไปจะสานพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ ร.7 ที่จะให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของคนไทยที่จะอยู่ในประชาคมโลกได้อย่างไม่อายใครและประการสำคัญที่สุด ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนจะเป็นตัวกำหนดและกดดันให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเฉกเช่นบ้านอื่น เมืองอื่น

ท้ายที่สุดตนเชื่อมั่นว่าไม่มีใครทานอำนาจประชาชนได้ ประชาชนจะร่วมกันสานพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ ร.7 ให้เป็นจริงให้จงได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเอง และเพื่อประเทศชาติโดยส่วนรวม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image