⦁…เปิดเพลง “โหมโรง” ส่งกระจายเสียงกรอกโสตประสาทประชาชนมาพักใหญ่ว่า เลือกตั้งไปก็งั้นๆ จะได้ “คนหน้าเก่า-พรรคหน้าเดิม” ตอกย้ำซ้ำไปซ้ำมา สัญญาณชัดเจน ว่าแล้ว “คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.” ใน สนช. ก็เด้งรับ ลงมติแก้ไข “มาตรา 2” ให้ร่าง กม.นี้มีผลบังคับใช้ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา พอ “โดมิโน” เขยื้อนเข้าตัวหนึ่ง ตัวอื่นๆ ก็ต้องขยับล้มตาม
⦁…รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ยกร่าง “กม.ลูก” ภายใน 240 วัน และเมื่อร่าง “กม.ลูก” ที่จำเป็นในการเลือกตั้ง “ทั้ง 4 ฉบับเสร็จ” ให้ “จัดเลือกตั้ง” ใน 150 วัน หรือ 5 เดือน ตามโปรแกรมเดิม จึงกำหนดห้วงเวลาเลือกตั้งไว้ “เดือนพฤศจิกายน 2561” คือปลายปีนี้่ อย่างไรก็ตาม เมื่่อมีห้วงเวลาพิเศษ ยืดเวลาบังคับใช้ “90 วัน” งอกขึ้นมาใหม่ เป็น “ตัวช่วย” สำหรับ “เลี่ยงบาลี” จึงต้อง “ยืด” ออกไปอีก 3 เดือน กลายเป็น “กุมภาพันธ์ 2562” จะมีเลือกตั้ง
⦁…ถือเป็นการรับลูก-ส่งลูก ชง-ตบกันเอง ในแบบมองตารู้ใจของผู้คนในแวดวง “แม่น้ำ 5 สาย” ที่รู้ๆ กันว่า “ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ” ถ้า “แป๊ะ” ยังไม่อยากเลือกตั้ง ก็ต้องจัดแจงขยับขยายให้ถูกใจ “แป๊ะ” ส่วนบรรดา “แม่น้ำ 5 สาย” ก็รับเละไปพร้อมกัน ได้ “อานิสงส์” กินเงินเดือน-เบี้ยประชุม และสารพัดสิทธิ อิ่มหมีพีมันไปตามประสานักการเมืองสาย “ลากตั้ง” ที่ไม่มี “ต้นทุน” อะไรมาก
⦁…แต่สำหรับ “แม่น้ำ 5 สาย” ถ้ารักแป๊ะ – ห่วงแป๊ะกันจริงๆ น่าจะสะกิดกันไว้ด้วยว่า สถานการณ์ปีที่ 3-4 ของรัฐบาลไม่ว่าจะมีที่มายังไง ล้วนแต่ “อ่อนไหว-หมิ่นเหม่” เป็นพิเศษพอกันหมด ประมาทไม่ได้ ลงได้ต้องลง เลิกได้ต้องเลิก เพราะประชาชนจะเริ่ม “เบื่้อ” หรือ “เหม็นขี้หน้า” ในห้วงเวลาแบบนี้ เว้นแต่บริหารงานเจ๋งเป้ง เศรษฐกิจอู้ฟู่ ชาวบ้านกระเป๋าโป่ง ไม่มีที่จะเก็บตังค์ นั่นก็ต้องรีบ “จัดเลือกตั้ง” ต่ออายุตัวเองอีกเหมือนกัน เอาความรู้สึกที่ดีของประชาชนมาแปรเป็น “คะแนนเลือกตั้ง”
⦁…เชื่อเถอะว่า “อำนาจพิเศษ” หรือ “ยาแรง” นั้น ใช้ได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นเอง จะเอามา เสพรายวัน หรือใช้ “แทนที่” ระบบปกตินั้น ประวัติศาสตร์พิสูจน์มาหลายครั้งแล้วว่า ทำไม่ได้ ถึงทำได้ก็มีอัตราเสี่ยงสูง ถึงจุดหนึ่ง จะหวาดระแวง โทษคนโน้นคนนี้ โทษกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ว่าเคลื่อนไหวเขย่าเก้าอี้ โทษสื่อว่า “จ้องล้ม” ถ้าเพียงแต่เข้าใจกฎเกณฑ์ของอำนาจ แล้ว “การปฏิบัติ” ก็จะง่าย และไม่ส่งผลร้ายต่อสังคม
⦁…เกมการเมืองเรื่อง “นาฬิกาบิ๊กป้อม” ยังเล่นกันหนัก เป็น “ศึกสายเลือด” ใน “กองหนุน” ด้วยกันเอง ตอนนี้ มี “สนช.” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องการ “รีเซต” ป.ป.ช. ก็ต้องจับตาว่า จะส่งผลต่อ “คดีนาฬิกาหรู” ที่ไปคาอยู่ใน “ป.ป.ช.” อย่างไรหรือไม่ เพราะ “ป.ป.ช.” เอง ก็หนีไม่พ้นกระแสการฟาดฟันกันเองของ “กองหนุน” กับเขาเหมือนกัน ป้อมค่ายที่ว่าแข็งแกร่งนั้น ล้วน “ตีแตก” จากภายใน มิใช่หรือ!??
กาแฟป่า