เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนานักบริหารระดับสูงเพื่อการบูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0 ในหัวข้อ “ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ : one country one team” ว่า เห็นสื่อมวลชน และ ข้อความผ่านไลน์ เผยแพร่ความเห็นของนักวิชาการบางส่วน ที่ใช้เสรีภาพวิจารณ์ว่า ข้าราชการในยุคนี้กร่างที่สุด แต่ส่วนตัว และนายกรัฐมนตรีกลับมองว่าข้าราชการในปัจจุบันทำงานหนักที่สุด โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีข้อจำกัดเงื่อนเวลาและการดำเนินการเอาผิดกับข้าราชการที่ไม่ปฏิบัติตามอย่างชัดเจน จึงรู้สึกแปลกใจและไม่เห็นสอดคล้องกับคำวิจารณ์ดังกล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า คาดการว่า กลางปีนี้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี จะมีผลบังคับใช้ และผูกมัดให้รัฐสภา รัฐบาล องค์กรอิสระ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต้องปฎิบัติตาม หรือ ดำเนินงานให้สอดคล้อง ไม่ใช่นั้นจะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในโครงการที่เสนอ หรือบุคคลากรตามที่ร้องขอ จนกว่าจะมีการแก้ไขยุทธศาสตร์ดังกล่าวตามกฎหมาย
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำแผนปฎิรูปประเทศ 13 ด้าน ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ประธานคณะกรรมการปฎิรูปประเทศทุกด้าน จะหารือกัน เพื่อสรุปเป็นแผนปฎิรูปประเทศแห่งชาติ ให้เหลือเพียงฉบับเดียว เพื่อเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาและมีผลได้ทันที ประมาณเดือนเมษายนนี้
นายวิษณุ กล่าวถึงการทำงานของภาครัฐในปัจจุบันว่า แต่เดิมก่อนการประชุม ครม. ต้องมีรัฐมนตรีต่อแถวเข้าพบนายกฯ เพื่อหารือในประเด็นต่างๆ แต่ในยุคนี้ ไม่มีการเข้าพบมากนัก เพราะรัฐบาลนี้ทำงานผ่านระบบแอพพลิเคชันไลน์ รัฐมนตรีทุกคน สามารถหารือกับนายกฯได้ทุกเรื่อง ทุกเวลา
ทำให้การทำงานทุกอย่างสะดวก รวดเร็วมากขึ้น ข้อสั่งการของนายกฯ ส่งถึงรัฐมนตรีทุกวัน แม้กระทั่งตีหนึ่งก็ยังสั่งงานกันอยู่ จึงฝากข้าราชการให้ดำเนินงานด้วยความรอบคอบ เพราะทุกข้อมูลสามารถถึงนายกฯได้ตลอดเวลา
