ประวิตรคุยเตีย บัน ความสัมพันธ์ชื่นมื่น! เล็งถกเปิดช่องทางขึ้นเขาพระวิหารฝั่งไทย

‘ประวิตร’ถกจีบีซีร่วม’เตีย บัน’ ยัน สัมพันธ์สองประเทศชื่นมื่น เผยสองฝ่ายร่วมมือสกัดช่องทางธรรมชาติ ป้องนักโทษหนีคดี เล็งถกเปิดช่องทางขึ้นเขาพระวิหารฝั่งไทย ขณะ ‘เตีย บัน’ ยันไม่ปิดกั้นนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่โรงแรมคอนราด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังเป็นประธานร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11 และยังเป็นครบรอบในโอกาสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 65ปี โดยมี พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ พล.อ.สมหมาย เกาฎีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรี ทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุม

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมสรุปว่า ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและตามแนวทางมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในบันทึกการประชุมครั้งที่ผ่านมาทุกประการ ส่งผลให้พื้นที่ตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศมีความสงบสุข มีความมั่นคง และรับการพัฒนาร่วมกัน อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น สำหรับการประชุม จีบีซี ครั้งที่ 12 ทางกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามว่า ความร่วมมือในการดูแลตามแนวชายแดนมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีมาตรการเพิ่มเติม แต่เราได้ใช้ทุกมาตรการที่มีอยู่ร่วมมือกัน เช่น การดูแลปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ยาเสพติด การสัญจรระหว่างประเทศ การค้าขายตามแนวชายแดน เราทำทุกอย่างให้เกิดความสงบ และเกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ เราดำเนินการทุกเรื่อง ในส่วนการดูแลที่เป็นพรมแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ที่หลบหนีของนักโทษคดีการเมืองและอาญานั้น ถือว่าเป็นช่องทางที่หลบหนีได้ตลอดเวลา แต่ทั้งสองประเทศได้เข้มงวดโดยให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายเพิ่มความกวดขัน เมื่อทางกัมพูชาจับได้และพบว่าเป็นนักโทษหนีคดี ก็ส่งตัวให้ประเทศไทย เช่น กรณีมือระเบิดแยกราชประสงค์ เป็นต้น

Advertisement

พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า ส่วนการพัฒนาพื้นที่รอบเขาพระวิหารร่วมกันนั้น ยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งต้องรอให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนก่อน ยืนยันขณะนี้เรามีความสัมพันธ์ที่ดี และต่อไปจะพูดคุยต่อไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือของสองประเทศต่อไป

ขณะที่ พล.อ.เตีย บัน กล่าวว่า ทางกัมพูชาไม่ได้ปิดกั้น และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมประสาทพระวิหาร ขณะนี้ทางกัมพูชาได้ดำเนินการตามรูปแบบที่กำหนดไว้ สำหรับช่องทางที่จะขึ้นไป เราได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนช่องทางที่นักท่องเที่ยวเคยใช้ในช่องทางตรงจากฝั่งไทยไปยังปราสาทพระวิหาร ขณะนี้กำลังพูดคุยเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ส่วนช่องทางผามออีแดงทั้งสองฝ่ายกำลังพูดคุยกันยังไม่ได้ข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในที่ประชุมได้แสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 65 ปี สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชาและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านสาธารณสุข และพัฒนาด้านการศึกษาระหว่างไทย-กัมพูชา โดยทรงขยายเวลาความช่วยเหลือในการควบคุมโรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก และโรคอื่นๆ ที่มียุงเป็นพาหะ รวมทั้งยังทรงสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีกำปงสปือ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านปศุสัตว์การเกษตรให้กับเยาวชนกัมพูชาและได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การประชุมGBC ไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ เป็นไปตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายจะได้พิจารณาทบทวนผลการดำเนินงานโครงการความร่วมมือต่างๆ เช่น  จุดผ่านแดนและการสัญจรข้ามแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ความร่วมมือด้านการเกษตร สาธารณสุข รวมทั้งความร่วมมือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงไทย-กัมพูชามากขึ้น ยังส่งผลต่อพัฒนาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและประชาชน ทั้งสองประเทศ ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งความสงบสุข ความมั่นคง การค้า การลงทุนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image