‘วิษณุ’ไม่รู้ถกแม่น้ำ 4 สาย อีกครั้ง โต้ล็อกขรก.นั่ง ส.ว.ไร้สาระ ติงงบฯประชามติยังสูงไป

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ระบุจะมีการหารือกันของแม่น้ำ 4 สาย เกี่ยวกับการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญของกรธ.ตามข้อเสนอ คสช. ว่า ตรงนี้ไม่ทราบ ไม่เคยได้ยิน และเข้าใจนายพรเพชรเป็นหนึ่งในผู้นำแม่น้ำ 1 สาย แต่ตนไม่ใช่จึงตอบไม่ได้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะอีกไม่กี่วัน กรธ.ก็ต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญมาแล้ว ส่วนจะมีการประชุมอย่างไรนั้นคงต้องรอนายกรัฐมนตรีกลับจากประเทศจีน ซึ่งท่านจะมีการพูดอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ ทั้งนี้การจะทำความเข้าใจออกมาเป็นข้อๆตนมองว่าไม่จำเป็น กรธ.คงเตรียมชี้แจงมาแล้วว่าอะไรที่เขาทำได้หรือไม่ได้ คิดว่าคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดีแล้วคือ “อย่าพูดว่าพบกันครึ่งทาง” จะเป็นครึ่งทางค่อนทางหรืออะไรก็แต่ไม่เป็นไร ขอเพียงระบุเหตุผลมา จะได้ใช้เป็นแนวทางทำความเข้าใจต่อผู้เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการประชุมในวันที่ 28 มีนาคม ช่วงเช้าก่อนนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลมีการพูดคุยหารือประเด็นนี้หรือไม่กับคนที่เกี่ยวข้อง นายวิษณุ กล่าวว่า ตนพูดกับบางคนเป็นการส่วนตัวแต่ขอไม่ระบุว่าเป็นใครเพราะไม่มีความสำคัญ แม้จะแก้ออกมาไม่เป็นไปตามที่ขอไป แต่ไม่ขัดข้อง ดังนั้นไม่ต้องกลัวภาพที่บางคนอยากเห็นว่าเกิดความขัดแย้งกัน มองว่าไม่เกิด

เมื่อถามว่าที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ระบุว่า มีการแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า แจ้งด้วยวาจา เมื่อถามว่าขณะนี้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มี แต่ท่านคงรับทราบแล้วเพราะท่านหูไวตาไว เมื่อถามว่าแสดงว่าขณะนี้รอท่าทีของนายรัฐมนตรีคนเดียวหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ใช่ ไม่ได้รอ คุณนะรอ ผมไม่ได้รอเลย เพราะผมชัดแล้ว ผมนั้นทั้งคม ชัด ลึกแล้ว ส่วนทางคสช.และนายกรัฐมนตรีมองเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร ผมไม่ทราบ และผมจะไม่หลวมตัวไปตอบว่าอยู่ที่นายกรัฐมนตรี เพราะไม่งั้นก็จะไปพาดหัวกันว่า “ทั้งหมดอยู่ที่ประยุทธ์” เพราะมันไม่ใช่ ผมไม่ตอบและคิดว่าไม่ใช่ด้วย เพราะผมชัดแล้ว ส่วนครั้งนี้หากยังไม่ชัดอีกก็ไม่รู้จะว่าไง”
เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่านายพรเพชรมองว่าต้องมีการประชุมแม่น้ำ 4 สายและในฐานะที่อยู่ในแม่น้ำ 4 สายด้วยคิดอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า “แม่น้ำสายผมมันจะนิ่ง แต่ไหลลึก”

เมื่อถามว่ากรณีที่นายมีชัย ระบุว่า สมาชิกในแม่น้ำ 4 สาย สามารถเป็น ส.ว.สรรหาได้ โดยไม่ติดเงื่อนไขต้องลาออกจากตำแหน่งก่อน 90 วัน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ต้องลาออก แต่ถ้าเป็นข้าราชการอยู่ต้องลาออก เมื่อไม่เป็นข้าราชการก็เหมือนคนทั้งหลาย คุณก็เป็นได้ แล้วทำไมการตั้งคนที่ออกจากราชการหรือ คสช.ที่ถูกยุบไปแล้วทำไมจะไม่ได้ ก็ไม่ได้มีอะไรห้าม
เมื่อถามว่าหากใครลาออกจะทราบทันทีคนนี้ถูกล็อกเป็น ส.ว.แน่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็นเลือกตั้งแล้วลาออกก็ได้ บางคนตั้งข้าราชการแล้วลากออกก่อนนำความกราบบังคมทูลก็มีการทำเอกสารกัน ไม่มีการล็อกอะไร ตนก็ยังเคยโดนต้องลาออกจากตรงนี้เพื่อเป็นตรงนู้น เมื่อถามว่ากระแสข่าวว่ามีการล็อกตัวบุคคลมานั่งป็นส.ว.สรรหา นายวิษณุ กล่าวว่า “เป็นเรื่องไร้สาระ แต่ธรรมดาที่สื่อจะดักหน้าไว้เช่นนั้นก่อน แต่ไม่ต้องคิดว่าดักหน้าแล้วเขาจะหลบ ไม่เอาตามนั้น เมื่อดักแล้ว สังคมคาดหมายแล้ว ไหนๆ ก็ทำแบบนั้นเสียเลย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอย่างนั้น และเรื่องนี้ยังอีกนาน เพราะยังต้องผ่านขั้นตอนการทำประชามติ รวมถึงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้น อาจทำให้หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป”

Advertisement

นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เคาะตัวเลขงบประมาณที่ใช้ในการทำประชามติ จำนวน 2,991 ล้านบาท ว่า ตนทราบตัวเลขดังกล่าวแล้ว แต่คงมีการหารือภายหลังได้รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์จาก กรธ.แล้ว ซึ่งจะมีการต่อรองกับสำนักงบประมาณ

เมื่อถามว่าตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังสูงอยู่ เพราะครั้งที่ผ่านมา กำหนดให้แจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญร้อยละ 80 ของครัวเรือนผู้มีสิทธิก็เป็นตัวเลขจำนวนนี้ วันนี้เมื่อตัดเงื่อนไขดังกล่าวไปแล้ว จะเพิ่มตรงไหนก็ต้องแจกแจงกับสำนักงบประมาณ แม้การจัดพิมพ์บทสรุปร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่น่าจะทำให้เพิ่มขนาดนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image