‘ชูศักดิ์’ชี้ผิดปกติยึดบ้านยิ่งลักษณ์ ขายทอดตลาด ทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา

ชูศักดิ์ ศิรินิล (แฟ้มภาพ)

‘ชูศักดิ์’ชี้ผิดปกติยึดบ้านปู ขายทอดตลาด ทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา ยัน’ไปป์-พ่อ’อยู่ได้ ไม่ต้องเช่า

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า การที่เจ้าพนักงานกรมบังคับคดีได้ทำการยึดบ้านของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว จะทำให้นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และนายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชาย ต้องจ่ายค่าเช่า และต่อมาระบุว่าอยู่ได้แต่ต้องขออนุญาตก่อนนั้นว่า การออกมาให้ความเห็นดังกล่าว ต้องมีความระมัดระวัง ทั้งในแง่ของความถูกต้องตามกฎหมายและในแง่ของคุณธรรม ในส่วนของกฎหมายนั้นการยึดทรัพย์สินเพื่อนำไปขายทอดตลาดชำระค่าเสียหายนั้น ถือเป็นมาตรการบังคับทางปกครองอย่างหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง แม้จะให้นำวิธีการยึดและการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง กรณีการยึดทรัพย์ตามคำพิพากษาของศาลมาใช้บังคับโดยอนุโลมก็ตาม แต่การยึดทรัพย์กรณีนี้ก็มิใช่การยึดทรัพย์โดยคำพิพากษาของศาล เพราะในที่สุดแล้วต้องรอให้ศาลมีคำพิพากษาว่าอดีตนายกฯต้องรับผิดชดใช้หรือไม่อย่างไรด้วย จึงมิใช่เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ ในทรัพย์สินจากลูกหนี้มาเป็นของเจ้าหนี้หรือของเจ้าพนักงานบังคับคดีแบบยึดทรัพย์ลูกหนี้ตามคำพิพากษา เพื่อขายทอดตลาดแบบทั่วไป โดยเฉพาะกรณีบ้านของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ยังถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของเดิมอยู่ เพียงแต่เจ้าของมีข้อจำกัดห้ามจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระผูกพันใดๆ ในอสังหาริมทรัพย์ แต่หลักกรรมสิทธิ์ในส่วนที่จะใช้บ้านเป็นที่อยู่อาศัยนั้นไม่มีกฎหมายห้ามแต่อย่างใด เว้นแต่เมื่อมีการขายทอดตลาดบ้านนั้นได้แล้ว เจ้าของเดิมจึงจะหมดสิทธิที่จะอยู่อาศัยในบ้านอีกต่อไป ระหว่างนี้ทั้งสามีและบุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าใดๆ

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนในแง่คุณธรรมนั้น เห็นว่าควรพิจารณาให้มากว่าการพูดอะไรออกไป ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของผู้เกี่ยวข้องควรต้องระมัดระวังให้มาก ไม่ควรพูดอะไรที่หมิ่นเหม่แบบคลุมๆทั้งที่ เรื่องดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องแน่นอนตามกฎหมาย

“ปัญหาสำคัญในเรื่องนี้คือในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยไปยึดทรัพย์ โดยอาศัยคำสั่งทางปกครองแล้วเอามาขายทอดตลาดโดยทันที เนื่องจากยังมีคดีหลักอยู่ว่าลูกหนี้ต้องรับผิดหรือไม่อย่างไร ยังไม่มีคำพิพากษาว่าลูกหนี้ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแค่ไหนเพียงไร เพราะลูกหนี้เขาโต้แย้งต่อสู้คดีอยู่ ทางปฏิบัติที่ผ่านมาจึงรอให้มีคำพิพากษาเสียก่อน หากไปยึดทรัพย์ขายทอดตลาดทันทีเลย หากต่อมาศาลบอกว่าลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดจะเกิดความเสียหาย เพราะมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินไปแล้ว แต่รายของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งทางปกครองและยึดทรัพย์ทันทีแถมยังใช้มาตรา 44 ยกเว้นความรับผิดของเจ้าหน้าที่เข้าไปอีก กรณีนี้จึงพูดได้ว่าผิดปกติ”นายชูศักดิ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image