“บิ๊กฉัตร”ฟุ้ง “ไทยนิยม” ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตั้งเป้ารับผู้สูงอายุเพิ่ม 400 แห่ง เร่งพัฒนาเด็กแรกเกิดโดยท้องถิ่น ชู ผลงานการจัดการน้ำเหนือกว่าหลายรบ.
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการ”ไทยนิยม ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า งานด้านพัฒนาสังคมที่เกี่ยวกับไทยนิยม อาทิ โครงการเตรียมความพร้อมรับผู้สูงอายุซึ่งดำเนินการแล้ว 878 แห่ง และมีแผนจะเพิ่มอีก 400 แห่ง โครงการดูแลพัฒนาชีวิตเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปีสำหรับผู้ยากไร้ 600 บาทต่อเดือนซึ่งจะดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) โดยใช้ทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐมาเป็นฐานข้อมูล
ทั้งนี้สำหรับไทยนิยมของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มี 3 แนวทางคือ 1.คนไทยไม่ทิ้งกัน 2.ชุมชนอยู่ดีมีสุข 3.การแก้ปัญหายาเสพติดร่วมกับทุกภาคส่วน 8,781 แห่งทั่วประเทศดำเนินการ ซึ่งจะใช้เป็นแนวทางด้านการพัฒนาสังคม
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าเรื่องไทยนิยมให้มี อสม 4.0 เพื่อพัฒนาให้มีความรู้และดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการมหัศจรรย์พัลวัล เน้นดูแลเด็กซึ่งเป็นอนาคตของประเทศเพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า จะส่งเสริมโครงการสำหรับผู้มีรายได้น้อยในโครงการนวดแผนไทยเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ โครงการติดตามผู้เสพยาเสพติด โดยหวังว่าทั้งหมดจะพาประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนได้
ในด้านการบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลนี้จะทำโครงการต่างๆได้มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาย้อนหลังไป 12 ปีถึง 4 เท่า แผนงานใหญ่ที่จะเริ่มในปีนี้ เป็นงานที่พัฒนาตามพื้นที่ 44 พื้นที่ จะสร้างความมั่นคงให้ผู้บริโภค อุปโภค รวมถึงเกษตรอุตสาหกรรม ดูแลการป้องกันภัยพิบัติและลดความเสียหายให้น้อยที่สุด ซึ่งการขับเคลื่อนของรัฐบาลนี้ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำ 10 ปีและขยายระยะเวลาเป็น 20 ปี โดยจัดตั้งหน่วยงานแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น้ำ(กนช.) เพื่อให้สามารถจัดการน้ำได้ทั้งระบบ มีการจัดทำร่างพ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำซึ่งเป็นฉบับแรกของประเทศไทยที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสนช.และคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปี 61 อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าทีมขับเคลื่อนระดับตำบลจะสร้างการรับรู้ สร้างความสำเร็จร่วมกัน และภาคราชการจะได้รับทราบข้อมูลความต้องการของประชาชนเพื่อนำมาปรับแผนให้สมบูรณ์ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
