เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ฐานะคู่สัญญาของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อสร้างโครงการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย ได้ต่อสัญญาจ้างก่อสร้าง ออกไปอีก 674 วัน นับจากวันที่หมดการต่อสัญญาครั้งที่3 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้การพิจารณาอนุมัติต่อสัญญารอบดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาจากบริษัทที่ปรึกษา, บริษัทควบคุมงาน และ คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องของสำนักงานแล้ว ซึ่งการต่อสัญญารอบที่ 4 นั้นจะมีผลไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2562ทั้งนี้ทางสำนักงาน ได้ยื่นเงื่อนไขให้ทางบริษัท ซิโน-ไทยฯ เร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะส่วนของห้องประชุมรัฐสภา, ห้องทำงานของประธาน, รองประธาน, ห้องกรรมาธิการ เพื่อให้สามารถย้ายส่วนงานในอาคารรัฐสภา อู่ทองใน เข้าใช้งานได้ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2561
“ก่อนหน้านี้ บริษัทซิโน-ไทยทำรายการเพื่อขอขยายสัญญา รอบแรก เป็นเวลา926วัน แต่ทางสำนักงานและฝ่ายผู้พิจารณาไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงขอให้บริษัททบทวนและยื่นขอเสนอขยายเวลาเข้ามาใหม่ โดยรอบสอง บริษัทผู้รับจ้าง ยื่นขอ เป็นเวลา กว่า 700 วัน ทางคณะทำงานและส่วนที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาและขอปรับลดเวลาดังกล่าวจนมีข้อยุติที่ขยายเวลาให้อีก 674 วัน” นายสรศักดิ์ กล่าว
นายสรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างล่าสุด นั้นอยู่ที่ร้อยละ 45 ซึ่งสำนักงานฯ ได้ขอให้เร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แต่ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ส่วนของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) และ ระบบพื้นฐาน อาทิ ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบเครื่องเสียงในห้องประชุม มูลค่า 8,000 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติ ซึ่งประเด็นดังกล่าวทางสำนักงานทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ดังนั้นหากได้รับงบประมาณส่วนดังกล่าว เชื่อว่าระบบงานจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะระบบไอซีที และระบบพื้นฐาน ต้องทำควบคู่ไปกับการก่อสร้างใหญ่ของอาคารรัฐสภา
