‘คนอยากเลือกตั้ง’ ประกาศจัดกิจกรรมจนกว่าจะได้เลือก นัดปักหลักชุมนุมยาว พ.ค.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายรังสิมันต์ โรม กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย พร้อมตัวแทนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จัดแถลงข่าวถึงแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไปในอนาคต

น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา กล่าวว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์นั้นทางกลุ่มได้แจ้งกับ สน.สำราญราษฎร์แล้ว คดีที่ถูกตั้งขึ้นนั้นมองว่าเป็นการตั้งข้อหาไม่สมเหตุผลและละเมิดสิทธิพลเมือง ตามแถลงการณ์ของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า การปราศรัยในการชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชน ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนให้กระด้างกระเดื่อง อีกทั้งเป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ส่วนที่บอกว่าเป็นการมั่วสุมทางการเมืองขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ก็เห็นว่าคำสั่งนี้เป็นไปเพื่อปกป้อง คสช. เมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้วคำสั่งดังกล่าวจึงขัดรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อความมั่นคงของรัฐและประชาชน โดยเรื่องนี้มีการร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหลายครั้งแล้ว

“การอ้างคำว่า ‘กฎหมาย’ ของ คสช. ที่บอกว่าเราละเมิดกฎหมายหรือการชุมนุมไปละเมิดสิทธิต่างๆ ทั้งนี้กฎหมายต้องเป็นไปเพื่อเจ้าของอำนาจหรือประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็รับรองการชุมนุมโดยสงบไว้ ถ้าใครออกกฎหมายตามอำเภอใจแล้วบอกว่าละเมิดสิทธินั้น สังคมก็ควรตั้งคำถาม การที่ คสช.บอกว่าการชุมนุมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อยากให้สังคมตั้งคำถามว่า สิ่งที่พูดนั้นมีความชอบธรรมหรือไม่ ท่านมีความละอายหรือไม่ การเป็นผู้นำประเทศควรมีความสง่างามกว่านี้” น.ส.ณัฏฐากล่าว

นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว กล่าวว่า สิ่งที่เรียกร้องไม่ใช่สิ่งใหม่ในสังคมนี้ เป็นสิทธิอันพึงมีที่ถูกพรากไปโดยคณะรัฐประหารเกือบ 4 ปีแล้ว สิ่งที่เรียกร้องคือการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดทิศทางความเป็นไปของประเทศชาติ ดีกว่าให้ใครไม่รู้ที่ไม่ฟังเสียงประชาชนทำหน้าที่ต่อไป เราเพียงใช้พื้นที่แสดงออกในสิทธิที่ประชาชนพึงมี ได้เวลาแล้วที่ประชาชนจะได้กำหนดทิศทางและอนาคตของตัวเอง ไม่ใช่ทิศทางที่กำหนดโดยแม่น้ำ 5 สายที่เป็นไปเพื่อพวกพ้อง จุดยืนเราคือหยุดยื้อเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ และเลือกตั้งในปีนี้เท่านั้น

Advertisement

นายรังสิมันต์กล่าวว่า เราเชื่อว่ามีหนทางเดียวที่ประชาชนจะทำให้เกิดการเลือกตั้งและไม่สืบทอดอำนาจ ประชาชนต้องออกมาแสดงพลังร่วมกัน ที่ผ่านมาเราทำหลายวิธี แต่ผู้มีอำนาจที่ถือปืนก็ยังไม่ลงจากอำนาจ คงมีวิธีการเดียวคือการแสดงพลัง จะเป็นวิธีการที่ทำให้ คสช.ตระหนักว่าใครคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง

“การเคลื่อนไหวจากนี้ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ กลุ่มสตาร์ตอัพพีเพิลจะไปที่ลานย่าโม นครราชสีมา เวลา 17.00 น. ครั้งต่อไปจะจัดกิจกรรมวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เวลา 15.00 น. หน้าหอประชุมเล็ก โดยมีเซอร์ไพรส์ที่ไม่ได้มุ่งหวังให้กระทบประชาชน แต่ต้องการให้กระทบ คสช. ครั้งต่อไปวันที่ 10 มีนาคม จะจัดกิจกรรมใหญ่ ครั้งต่อไปวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งจะแจ้งสถานที่ภายหลัง โดยในเดือนเมษายนอาจไม่มีกิจกรรม แต่พฤษภาคมจะมีกิจกรรมทุกวันเสาร์ และจะมีการปักหลักชุมนุมในวันที่ 19-22 พฤษภาคม จะชุมนุมค้างคืนจนกว่าประชาชนจะได้อำนาจคืนมา นี่คือโรดแมปภาคประชาชนที่จะมีความชัดเจนกว่าโรดแมปของ คสช. จุดมุ่งหมายการชุมนุมเราไม่มีศัตรู แม้เราจะวิพากษ์วิจารณ์กองทัพ แต่เราต้องการเพียงแยกน้ำเสียออกจากน้ำดี การชุมนุมของเราจะเป็นไปตามกฎหมายปกติ วันนี้คนไทยพร้อมเลือกตั้งแล้ว แต่คนที่ไม่พร้อมคือ คสช. ไม่มีใครอยากชุมนุม ออกมาเสี่ยงโดนคดี เราแค่เรียกร้องให้รักษาสัญญา ถ้าไม่รักษาสัญญา ประชาชนก็จะเคลื่อนไหวเรื่อยๆ

Advertisement

“การมองว่าการชุมนุมเป็นการของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ประเทศไทยมีความขัดแย้งทางการเมืองแต่ในอดีต แต่เราไม่ควรส่งต่อความขัดแย้งสู่ลูกหลาน ความขัดแย้งเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นผมก็แทบไม่รู้จักเลย ผมมาวันนี้เพราะเชื่อว่าอนาคตประเทศจะมีประชาธิปไตย วันนี้ไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ ผมยินดีต้อนรับทุกฝ่าย ผมขอเชิญชวนนักการเมืองทุกคนทุกฝ่ายมาร่วมต่อสู้ภาคประชาชน วันนี้ไม่มีฝ่ายสีเสื้อ แต่คุณจะเลือกอยู่ข้างทหารหรือประชาชน อยากฝากถามไปถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ คุณกรณ์ จาติกวณิช ว่าพร้อมออกมาร่วมกันไหม” นายรังสิมันต์กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image