เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายชวน ชูจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ผู้ได้รับมอบหมายจากกลุ่มเพื่อนที่เคยทำงานภาคการเมืองให้เข้ายื่นแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองภายใต้ชื่อว่า “พลังประชารัฐ” ในวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเริ่มกระบวนการตามขั้นตอนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 53/2560 เปิดเผยว่าในฐานะที่เป็นผู้คลุกคลีและทำงานกับชุมชนทั่วประเทศในช่วงการบริหารงานของรัฐบาล คสช. เห็นปัญหาและแนวทางที่จะไปพัฒนาประเทศในอนาคต นั่นคือการพัฒนาด้านเศรษฐกิจฐานรากให้ผู้มีรายได้น้อยกว่า 11 ล้านคนตามที่ภาครัฐรับลงทะเบียนไว้ ซึ่งคำว่า “พลังประชารัฐ” หมายถึง พลังประชาชน ร่วมกับภาครัฐ ในการขับเคลื่อนประเทศไทย และเห็นว่าหลายโครงการรัฐบาล คสช.ก็ได้ดำเนินการไว้แล้ว
นายชวน กล่าวอีกว่า ผู้ที่จะมาร่วมดำเนินการพรรคพลังประชารัฐต้องมีอุดมการณ์ในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศ หลังจากที่ไทยเคยประสบปัญหาการเมือง ซึ่งตั้งเป้าดำเนินการเมืองไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก
เมื่อถามว่า ชื่อพรรคพลังประชารัฐ ดูคล้ายกับชื่อโครงการของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายชวน กล่าวว่า อาจเป็นความบังเอิญ ด้วยเป้าหมายที่ผู้ก่อตั้งพรรคต้องการความหมายของชื่อให้เกิดการรวมตัวกันทำงานร่วมกันระหว่างรัฐและประชาชน แต่ยอมรับว่ามีเพื่อนที่รู้จักทำงานร่วมกับรัฐบาล คสช. เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้ปรึกษาหารือกันถึงเรื่องตั้งพรรคพลังประชารัฐ และไม่ได้คุยกันนานเป็นปีแล้ว เพียงแต่ได้ติดตามการทำงานเท่านั้น
“มันเป็นคำที่บังเอิญ เราไม่รู้จะใช้คำไหนให้เกิดการรวมตัวกันให้เกิดการทำงานร่วมกัน คิดว่าถ้าประเทศเราและเราร่วมกันทำงานไม่เป็นจะโตได้ยังไง ถ้าภาคประชาชนภาครัฐร่วมกันไม่ได้ มันจะโตได้ยังไง รัฐต้องมีในทางรัฐศาสตร์ที่ว่ารัฐเป็นสิ่งชั่วร้ายที่จำเป็น เราปฏิเสธไม่ได้เมื่อมีรัฐตามกฎหมายก็ต้องมีคนของรัฐ นั่นคือราชการ เช่น ระบบประธิปไตยก็มีตัวแทนจากการเลือกตั้ง” นายชวนกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามความเห็นประชาชน โดย1ใน 6 คำถามคือกรณีที่ คสช.จะสนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นสิทธิของ คสช.ใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า การสนับสนุนพรรคการเมืองของ คสช.ถือเป็นสิทธิ์ถ้าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายชวนไม่ปฏิเสธหาก พรรคพลังประชารัฐ จะได้รับการสนับสนุนจาก คสช. แต่ก็เชื่อว่า คสช.จะให้การสนับสนุนหลายพรรคไม่ใช่แค่พรรคเดียว
“ผมว่าท่านคงสนับสนุนหลายพรรค ของเราหากท่านสนับสนุนก็ไม่เห็นผิดอะไร หรือถ้าท่านเห็นพรรคอื่นบอกโครงการดีมากผมก็เห็นด้วย หากจะเป็นไปตามวิธีการตามกฎหมายไม่เห็นมีปัญหาอะไร ถ้าเห็นว่าท่านมีตำแหน่งแล้วจะเห็นด้วยกับเรื่องใดไม่ได้ก็คงไม่ใช่” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ก่อตั้งขึ้นด้วยอุดมกการณ์เป้าหมายให้ทุกชุมชนเกิดความเข้มแข็งในทุกด้าน ซึ่งว่าที่แกนนำของพรรคนั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะมีใครบ้าง โดยเปิดเผยว่ามีอดีต ส.ว. เข้าร่วม และยินดีต้อนรับบุคคลที่มีชื่อเสียง หรืออดีตนักการเมืองเข้าร่วมหากสนใจนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงยังไม่ได้มีการหารือถึงแผนการวางเป้าหมายการส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค โดยต้องรอความชัดเจนหลักดำเนินการตั้งพรรคเรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังไม่มีอดีตนายพลทหารแสดงความจำนงในการเป็นสมาชิกพรรค และพร้อมเปิดรับหากเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย
ผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวอีกว่า ความสำคัญของพรรคการเมืองซึ่งเป็นสถาบันทางการเมืองของประเทศ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคที่จะยั่งยืนยาวต้องเป็นพรรคที่มาจากมวลชน และเชื่อว่าด้วยพลังของประชาชนจะส่งผลให้พรรคได้ที่นั่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน แต่จำนวนนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องรอดูความชัดเจนของบุคคลที่จะมาร่วมดำเนินการกับพรรค และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาและอุปสรรคตามกติกาใหม่ของกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองในการหาทุนประเดินพรรคจำนวน 1 ล้านบาท หลังจากนี้พรรคพลังประชารัฐจะเร่งดำเนินการเพื่อขออนุญาต คสช.ในการจัดประชุมพรรคตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้วางตัวหรือมีแคนติเดทบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค และไม่ใช่นายชวน ชูจันทร์
เมื่อถามว่า กรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในอนาคตหลังการเลือกตั้ง นายชวน กล่าวว่า หากคนในระบบเหมาะสม ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอก แต่หากมีการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนนอก ในนามพรรคพลังประชารัฐ ยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ว่าจะสนับสนุนหรือหรือไม่ แต่ส่วนตัวที่ติดตามการบริหารงานของรัฐบาล คสช.ตลอดเกือบ 4 ไม่ปฏิเสธว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก
“ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ หากท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่เป็นสิทธิ์ของท่าน ส่วนคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้นเท่าที่ติดตามการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์มา ท่านมีความตั้งใจในการบริหารประเทศ “ นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจว่ายังไงต้องการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน และเตรียมที่จะเสนอความเห็นต่อแม่น้ำทั้ง 4 สาย และ กกต. ในการประชุมหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งว่า ช่วงไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์มีความเหมาะสม หรือจะเร็วขึ้นก็ได้ หากช้าไปกว่านี้อาจจะอึดอัด พร้อมระบุว่าเข้าใจถึงปัญหาของบ้านเมือง
สำหรับ ประวัติ นายชวน ชูจันทร์ นั้น ปัจจุบันนอกจากบทบาทหน้าที่เป็นประธานวิสาหกิจชุมชนแล้ว นายชวนทำเกษตรกรรมและขายอาหารในตลาดคลองลัดมะยม จบการศึกษาระดับปริญญาตรีปี 2519 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาโทปี 2538 คณะรัฐศาสตร์ และได้รับรางวัลศิษย์ดีเด่นของคณะที่เรียนในปี 2557 และล่าสุดปี 2560 ยังเคยทำงานเป็นนิติกรของสำนักงานโรงงานน้ำตาลกลาง กระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่จะลาออกจากงานประจำในปี 2535 เพื่อมาดำเนินงานทางการเมืองในพรรคพลังธรรมฝนฐานะผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดลำปาง แต่คะแนนเสียงไม่สามารถชนะคู่แข่งได้ ทั้งนี้นายชวนเป็นคนไทยคนที่ 2 ที่ได้รับรางวัล “อิลกา” ในปี 2557 ซึงคนไทยคนแรกที่ได้รับคือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
