“สามารถ” ให้กำลัง “ธนาธร” ลงสนามเลือกตั้ง ชู ต้านเผด็จการ
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารไทยซัมมิทกรุ๊ป ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองร่วมกับนายปิยะบุตร แสงกนกกุล นักกฏหมาย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ว่า เป็นการรวมกลุ่มกับนักวิชาการหัวก้าวหน้า แต่คงไม่ใช่การแตกแขนงจากพรรคเพื่อไทยอย่างที่มีข้อสังเกตซึ่ง เมื่อมีคนรุ่นใหม่เสนอตัวเราให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพราะแนวทางของเขาสนับสนุนให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งและต่อต้านระบบเผด็จการ จึงถือได้ว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดที่เหมือนกับเราที่ไม่เอาเผด็จการ จึงดีใจที่คนรุ่นใหม่ต้องการหว่านเมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตยให้คนรุ่นใหม่ใหม่เข้ามาทำงาน ก็ต้องช่วยกันประคับประคองกันไป เพราะต้องยอมรับว่าใครที่เข้ามาในการเมือง บางคนก่อนที่จะเข้ามาเหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์แต่พอเข้ามาแล้วก็มีคนเติมสีให้ดังนั้นคนที่เข้ามาต้องมีความอดทนในแวดวงนี้
เมื่อถามว่า กลุ่มดังกล่าวจะมีการสร้างปรากฏการณ์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นทางเลือกให้ประชาชนเหมือนเมื่อครั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามาเล่นการเมืองหรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่ากติกาใหม่มีข้อกำหนดที่ซับซ้อน และเวลาการเตรียมตัวในการตั้งพรรค ทั้งการเตรียมสมาชิก ทำนโยบายที่มีความกระชั้นชิด อาจจะไม่ได้ทำการบ้านเหมือนเมื่อครั้งที่นายทักษิณเคยทำ ที่ได้เตรียมทำการบ้านในเรื่องนโยบายไว้ล่วงหน้า ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้านฯซึ่งผ่านการวิเคราะห์สังเคราะห์มาก่อนที่จะประกาศ ไม่ได้อ่านจากตำราเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งการอ้างอิงจากตำราอย่างเดียวก็อาจจะไม่ใช่
นายสามารถกล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงกลุ่มบุคคลดังกล่าว ที่ยังไม่มีนโยบายที่จะชูให้โดนใจชาวบ้านนอกจากนโยบายที่ขอโอกาสจากคนรุ่นใหม่เพราะในอนาคตเป็นโลกของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาบริหารงาน ซึ่งเหล่านี้ยังเป็นนามธรรมที่จะตอบสนองความต้องการของชาวบ้านรากหญ้าทั้งหลาย อีกทั้งการเตรียมพรรคทั้งการหาผู้สมัครให้ครบ 350 เขตตามกติกา การตั้งผู้แทนพรรคประจำจังหวัด และต้องหาสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 คน ที่ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาเซ็นชื่อแล้วเป็นได้แต่ต้องมีขั้นตอนรายละเอียดยิบย่อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องดูกันต่อไปว่ากลุ่มที่จะตั้งพรรคนี้จะทำตามขั้นตอนธุรการได้ทันตามเวลาที่กำหนดหรือไม่
