พท. บอก ขอไม่โต้ ปชป. ถึงเวลาเลือกตั้งประชาชนจะตัดสินใจได้ว่าพรรคแบบไหนที่ฝากผีฝากไข้ให้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประเทศได้
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปขป.) ออกมาตอบโต้และโจมตีพรรคเพื่อ พท.อย่างต่อเนื่อง ว่าความจริงเรื่องนี้คนที่พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องตลอดเวลารวมถึงรอบหลังคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ที่พาดพิงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรง หัวหน้าพรรค ปชป.บอกว่าต่อสู้กับระบอบทักษิณมา 20 ปีและจะไม่จับมือกับพรรค พท. เป็นการผลิตซ้ำวาทกรรมสร้างความเกลียดชังหรือไม่ ในขณะที่ยังไม่ชัดเจนด้วยซ้ำว่าลูกพรรคจะสนับสนุนหัวหน้าพรรคตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรือสนับสนุนคนนอก ยังต้องไล่เช็กชื่อว่าใครจะอยู่ใครจะไปจากพรรค แต่กลับยังมีเวลาว่างมาบอกว่าไม่จับมือระบอบทักษิณ ขนาดพรรค พท.ไม่มีปัญหาแบบนั้น ยังไม่มีเวลาที่จะไปประกาศเป็นศัตรูกับฝ่ายไหนเลย นอกจากประกาศศัตรูกับความยากจน มุ่งมั่นทำนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้องประชาชน จุดยืนที่ชัดเจนมากของพรรค พท. คือการต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน การจำกัดสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมให้เปิดพื้นที่ทางความคิด ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
นายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรค พท.ก้าวข้ามจากวังวนของความขัดแย้ง และจะอดทนต่อการยั่วยุใส่ร้ายป้ายสี ขอทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่การเมืองโบราณ เพราะภารกิจพรรค พท.คือการมุ่งมั่นแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การออกนโยบายที่ตอบโจทย์ แก้ไขปัญหาประเทศ ประชาชนทราบดีว่าระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง แต่ที่ยังมีการปลุกผีทักษิณเพื่อโจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามนั้น เพื่ออะไร เหมาะสมหรือไม่ ถึงเวลาต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามนายทักษิณได้แล้ว ประชาชนคิดได้ว่านักการเมืองแต่ละกลุ่มแต่ละพรรคเป็นอย่างไร ใครทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน พักชำระหนี้เกษตรกร หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ประชาชนจำได้ว่าใครเป็นคนทำ ในขณะเดียวกันประชาชนก็จำได้ว่ากลุ่มการเมืองกลุ่มไหนที่ร่วมเป่านกหวีดชัตดาวน์ประเทศ ชัตดาวน์ระบบราชการ บอยคอตการเลือกตั้ง 2 ครั้ง ก่อจลาจลขัดขวางการเลือกตั้ง จนนำประเทศไทยมาสู่จุดนี้หรือไม่ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมืองต้องคิดถึงการวางระบบ สร้างอนาคตให้กับลูกหลาน พรรค พท.ไม่ขอร่วมวงตอบโต้สาดโคลนกันไปมา เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์และเบื่อหน่าย เชื่อมั่นว่าเมื่อถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนจะตัดสินใจได้ว่าพรรคแบบไหนที่ฝากผีฝากไข้ให้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชนได้
