เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายชวน ชูจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ในฐานะตัวแทนกลุ่มการเมืองที่เข้าจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองใหม่ภายใต้พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเตรียมเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) มาเป็นที่ปรึกษาพรรคว่า ตนและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคยังไม่ได้คิด ไม่ได้ประชุม หรือมีมติกันในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ยังไม่มีสถานะเป็นพรรค จึงไม่อยากทำอะไรที่เกินเลยไป ที่ผ่านมาเป็นเพียงข่าวเท่านั้น
“เราก็เฉยๆก่อน ยังไม่มีมติอะไรเลย ยังไม่ได้วางให้ใครมาดำรงตำแหน่งใดๆในพรรค ตอนนี้พรรคก็ยังไม่เกิด คณะกรรมการการเลือกตั้งก็ยังไม่แจ้งว่าอนุญาตให้ใช้ชื่อพรรคนี้หรือไม่ เพราะฉะนั้น เราคงไม่ทำอะไรถึงขนาดนั้น” นายชวนกล่าว
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะได้รับเชิญให้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น นายชวนตอบว่า รู้จักกับนายสมคิดมานานหลายปี ช่วงที่ยังเป็นหนุ่ม ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันเลย เพราะทั้งตนและนายสมคิดต่างมีภารกิจ หากจะพบกันบ้างก็เป็นเพียงการพบกันโดยบังเอิญในงานต่างๆเท่านั้น
“ตอนหลังท่าน(นายสมคิด)ก็ทำของท่าน เราก็ทำของเรา ท่านไปทำงานด้านการเมือง ผมก็มาทำงานชุมชน พอเจอกันโดยบังเอิญในงานไหนก็ทักทายกันเท่านั้นเอง แต่ตั้งแต่ท่านมาดำรงตำแหน่ง ผมก็ไม่ได้เจอท่านแล้ว เพราะท่านไม่ว่างเลย ทั้งโทรศัพท์ทั้งอะไร ไม่ได้คุยกันเลย นานแล้ว เพราะเราไม่ได้มีธุรกรรมอะไรไปเกี่ยวข้อง เราก็ทำงานชุมชนของเราไป สร้างชุมชนทั้งในบริเวณที่เราอยู่ และนอกชุมชนเกือบทั่วประเทศ บางทีท่านก็บ่นว่า ไม่ไหว เหนื่อย สุขภาพก็ไม่แข็งแรง อะไรทำนองนี้ ก็เข้าใจว่าคนอายุเลย 60 ปีไปแล้ว วันดีคืนดีก็ไม่ค่อยสมบูรณ์” นายชวนกล่าว
เมื่อถามว่า ยังยืนยันหรือไม่ว่าหากมีโอกาสที่เหมาะสม พรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายชวนกล่าวว่า ตามหลักการพรรค พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแน่นอน เราไม่ได้ตั้งมาเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หากใครจะมาก็แล้วแต่ความสมัครใจ เพราะวัตถุประสงค์ของการตั้งพรรคคือการนำความคิดของความอ่านไปทำให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติเท่านั้น
“ ถ้าใครชวนผมทำพรรคเฉพาะกิจ ผมก็ไม่เอา ไม่ทำแล้ว เพราะเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรที่โลดโผน เราแค่มีแนวทางที่จะพัฒนาประเทศ จึงคิดว่าถ้ามาตั้งพรรคน่าจะช่วยทำตรงนี้ให้เกิดประโยชน์โภคผลได้ เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าบ้านเมืองของเรามีปัญหา จึงคิดว่าความคิดความอ่านของเราน่าจะไปเสริมได้เท่านั้นเอง” นายชวนกล่าว
นายชวนกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ปรึกษาหรือเชิญทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และนายสมคิด มาร่วมพรรค และหากพลังประชารัฐมีสถานะเป็นพรรคการเมืองเรียบร้อยแล้ว ตนย่อมต้องเปิดเผยรายละเอียดทุกอย่าง ทุกวันนี้มีเพียงข่าวลือ พร้อมย้ำว่า หากข้อมูลใดไม่ได้ออกจากปากตนก็อย่าเชื่อว่าจะเป็นความจริง เว้นเสียแต่คำพูดหรือข้อมูลนั้นจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์หรือนายสมคิดเอง
“ไม่ได้ปรึกษา ไม่ได้รบกวนท่านทั้งสองท่านเลยแม้แต่นิดเดียว ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจง ต่อไปจะได้ไม่ลือ มีอะไรก็ถามมา เดี๋ยวก็เปิดหมดแล้ว ถ้าตั้งพรรคขึ้นมา จะได้ไม่ต้องมาทำอะไรที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าซ้ำซาก วันๆไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวก็ถามคนนี้เดี๋ยวก็ถามคนนั้น ผมจะไม่พูดอะไรแล้ว ถ้าไม่ได้ยินจากปากของผม อย่าไปเชื่อใคร ยกเว้นท่านพูดของท่านเองว่าท่านลาออกแล้วนะ ท่านจะมาที่นี่นะ ค่อยว่ากัน” นายชวนกล่าว
