เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง ผลงานรัฐบาลในสายตาประชาชน ระบุภาพรวมคะแนนรัฐบาลเต็ม 10 ได้แค่ 5.35 ประชาชนจี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เลือกตั้ง ทุจริตคอร์รัปชัน ว่า ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปราบโกง เพราะพบทุจริตในวงกว้างทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ และท่าทีของนายกรัฐมนตรีที่ให้ลดราวาศอกกับปมแหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน รักนายกฯ ต้องรักรองนายกฯ ด้วย
“ทั้งที่ถ้าจะตรวจสอบกันจริงๆจังๆนาฬิกา 25 เรือน น่าจะตรวจสอบได้ไม่ยาก ประกอบกับท่าทีของ ป.ป.ช. ที่ไม่อนาทร ร้อนใจ ประชาชนจึงสงสัยว่า ด้วยเหตุนี้หรือไม่ที่ ป.ป.ช.ไม่ถูกเซ็ตซีโร่ ประธาน ป.ป.ช.ที่เป็นอดีตเลขาฯ ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาทำหน้าที่ประธาน ป.ป.ช. รวมถึงกรรมการ ป.ป.ช.คนอื่นๆ ที่ขาดคุณสมบัติ แต่ได้อยู่ต่อ อยู่เพื่อการนี้หรือไม่ ถ้าจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา น่าจะทำได้ไม่ยากหรือไม่ ทำไมจึงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ล่าช้า 2 มาตรฐานหรือไม่ จึงไม่แปลกใจที่ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล เหมือนกับ สนช.ที่ถูกมองว่า ใช้แท็กติกทางกฎหมาย เพื่อยื้อการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ นายสมชาย แสวงการ ที่บอกให้พรรคการเมืองต้องร่วมทำสัตยาบันเลื่อนโรดแมปเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือนนั้น ฟังได้หรือไม่ แม่น้ำห้าสาย ร่างกฎหมายเอง แก้เอง แล้วสงสัยเองว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จนต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ชงเอง แก้เอง แบบนี้ เพื่อยื้อการเลือกตั้งเองหรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าวและว่า ต้องถามว่าใครควรต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อการเสียโอกาสการเลือกตั้งที่ต้องล่าช้าออกไป จนเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
