‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล โยนสนช.ยื่นตีความพ.ร.ป.ส.ส.(คลิป)

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเชิญพรรคการเมืองร่วมหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งในเดือนมิถุนายนนี้ว่า เรื่องการเชิญพรรคการเมืองนั้นใครจะมาหรือไม่มาก็แล้วแต่เขา ถ้าไม่มาประชาชนจะว่าอย่างไร ต้องการให้ประชาชนรับทราบรับรู้ด้วยว่ามีการพูดคุยอะไรกันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต ไม่ได้หมายความว่า จะไปรู้นโยบายอะไรของเขา เพียงแต่เขาต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ในสิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะทุกพรรคอาสาที่จะเข้ามาทำงานการเมืองให้กับประเทศ
“อันนี้สุดแล้วแต่ ถ้ามาไม่ครบหรือไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลยมันก็กำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้นั่นแหละ” นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเชิญพรรคการเมืองมาชี้แจงถึงนโยบายนั้นถือเป็นการแทรกแซงพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุย ไม่ได้หมายถึงให้มาพูดคุยในนโยบายพรรค แต่อยากให้พูดถึงว่าจะแก้ไขปัญหา เช่น เรื่องการทุจริต เรื่องการบุกรุกป่า อย่างไร โดยต้องคุยแบบนี้ แล้วทำไมนโยบายพรรคมันปิดลับกันมากหรืออย่างไร แต่พรรคการเมืองสามารถเปิดเผยนโยบายพรรคของตัวเองในภายหลังก็ได้ เพราะไม่ได้อยากจะรู้ เพียงแต่อยากจะถามว่าพรรคการเมือง จะทำต่อในสิ่งที่ตนทำไว้อย่างไร ถ้ามีวิธีการอื่นก็ต้องถามว่าประชาชนจะรับได้หรือไม่ ไม่ใช่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย? แล้วก็เลือกกันออกมา มันไม่ใช่

“มันต้องสร้างการรับรู้ อย่างวันนี้ผมบอกทุกอันแล้ว ผมเคยหวงห้ามว่าใครจะเอาของผมไปใช้บ้างไหม และที่ผ่านมาผมทิ้งของเขาหมดหรือเปล่ามันก็ไม่ใช่อีก อะไรที่สานต่อได้ผมก็ทำ ส่วนอะไรที่มีปัญหาก็แก้ไขให้ถูกต้อง ใครเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลก็ต้องทำให้ประเทศชาติเจริญเติบโต นโยบายพรรคนั้นไม่ใช่นโยบายที่จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงได้ เพราะนโยบายพรรคเขาทำเพื่อสนองตอบบางกลุ่มเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นไม่ใช่หรือ ยกตัวอย่าง การจำนำข้าว ถามว่าให้ใคร แล้วเคยรับผิดชอบในเรื่องงบประมาณแผ่นดินหรือไม่” นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่าหากพรรคการเมืองไม่มาร่วมหารือด้วยจะไม่สามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ โดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่ไม่มา นายกฯกล่าวว่า ไม่มาแล้วจะคุยกับใคร เมื่อถามย้ำอีกว่า หากพรรคการเมืองไม่มาแล้วจะกำหนดวันเลือกตั้งได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ต้องหาข้อยุติให้ได้มากที่สุด วันนี้มีพรรคการเมืองกี่พรรคที่เกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้มีอยู่ 40-50-60 พรรคแล้ว และ กกต.จะรับรองทุกพรรคหรือไม่
“ใครอยากมาก็มา แต่ผมไม่ไปเบี้ยวอยู่แล้วแหละ ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกตั้ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องกำหนดเองจะไปยากอะไรเล่า” นายกฯ กล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะส่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสนช. เพราะกฎหมายนี้ยังไม่ได้ส่งกลับมาที่ตนเลย อย่ามาโยนให้รัฐบาล ในเมื่อท่านยังมีปัญหากันอยู่ก็ต้องแก้ที่ท่าน ถ้ามันไม่จำเป็นตนจะส่งทำไม ในเมื่อมอบหมายความรับผิดชอบไปแล้วก็ให้ไปทำกันตรงโน้น มิเช่นนั้นจะเสียหายกว่าที่จะได้อะไรกลับมา ในเมื่อวันนี้สนช.ยังเห็นไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องที่สนช.เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบไม่ตรงกัน แต่เกิดจากความเป็นห่วงเพราะมีเสียงทักท้วงจากตรงนั้นตรงนี้ เช่น นักการเมือง และอื่นๆ จึงเกิดความไม่มั่นใจ ดังนั้น ก็ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนตัดสิน เพื่อจะไม่เกิดความเสียหายในวันหน้า มิเช่นนั้น เมื่อเลือกส.ว.มาแล้วมีปัญหาฟาวร์ทั้งหมดจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบพอถึงตอนนั้น

เมื่อถามว่า แสดงว่าสนับสนุนให้ทั้ง 2 ฉบับส่งตีความใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ เห็น สนช.ส่งฉบับเดียวไม่ใช่หรือ เมื่อถามย้ำว่า ควรส่งทั้ง 2 ฉบับหรือไม่เพื่อกันปัญหาในอนาคต นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่มีหรอก ฉบับส.ส.ไม่น่าจะมีปัญหา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image