บิ๊กตู่บ่น เหน็ดเหนื่อยปัญหาการเมือง แทนที่จะเอาเวลามาคิดหาภาษี นำเงินช่วยปชช.

นายกฯ เยี่ยมชมกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาคำไฮ ชาวบ้านร้องแหล่บายศรีสู่ขวัญเบิร์ธเดย์ย้อนหลัง ย้ำไทยนิยมยั่งยืนต้องนำประเทศ ไม่ใช่การเมือง โวพูดมาเกือบ 4 ปีแล้ว ขอประชาชนสัญญาอย่าย้อนกลับไปก่อนปี 57

วันที่ 22 มีนาคม 2561 เวลา 14.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาคำไฮ รับฟังการนำเสนอข้อมูลการดำเนินงาน เยี่ยมชมร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาคำไฮ และจะร่วมเวทีประชาคมหมู่บ้านตามโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” กับประชาชนในพื้นที่

โดยประชาชนบ้านนาคำไฮได้ผูกผ้าหมี่สลับขิดซึ่งเป็นผ้าทอพื้นบ้านของจังหวัดหนองบัวลำภูให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี และได้มอบบายศรีสู่ขวัญและผูกข้อมือให้กับนายกรัฐมนตรี พร้อมแหล่อวยพรนายกรัฐมนตรีเนื่องในวันคล้ายวันเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา และกล่าวถึงโครงการที่นายกรัฐมนตรีทำให้ประชาชน โดยเฉพาะโครงการไทยนิยมยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับตนเองและคณะ ซึ่งการผูกข้อมือ เปรียบได้กับเป็นการผูกใจสองข้างเข้าหากัน

Advertisement

นายกรัฐมนตรีร่วมเวทีประชาคมหมู่บ้าน โดยตัวแทนประชาชนได้ขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือการขุดเจาะน้ำบาดาล ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร และทำสะพานลอยข้ามถนนและอุโมงค์ทางลอดให้สามารถสัญจรได้สะดวก โดยนายกรัฐมนตรีรับหลักการไว้ทั้งหมด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในเรื่องที่ประชาชนร้องขอ สิ่งใดทำได้ทันทีก็จะทำ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คำว่าไทยนิยมไม่ใช่การเมือง เป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องเป็นแบบนี้เพราะเราเป็นประเทศไทย ที่เป็นสังคมสมานฉันท์ เป็นสังคมแห่งความร่วมมือพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ รับฟังความคิดเห็นต่าง วันนี้เป็นการเตรียมการประเทศไปสู่ความเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนให้ได้ในอนาคต ไม่ว่ารัฐบาลใดต่อจากนี้ก็ตาม

“วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่องานการเมืองทั้งสิ้น อาจจะมีคนมาพูดจาโน่นนี่ว่ามาเช็กคะแนนเสียง ผมไม่ต้องการคะแนนเสียง คะแนนเสียงเดียวผมก็ทำให้ ซึ่งการทำงานเพื่อคะแนนเสียงอย่างเดียวไปไม่ได้ ประเทศชาติจะติดหล่มอยู่ที่เดิม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่างวันนี้ที่มาหนองบัวลำภู มาเพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุด รัฐบาลต้องมองคนอย่างนี้ มองคนที่แตกต่างในคุณภาพชีวิต ถ้าไล่ดูอยู่จังหวัดที่ 76 มันไม่ไหว ปล่อยกันมาอยู่อย่างนี้ได้อย่างไร 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาทุกปัญหา มาเพื่อปลดล็อก และเดินทางสู่ไทยนิยมยั่งยืนในวันนี้ ซึ่งหากเราไม่แก้ปัญหา กฎระเบียบวิธีการ การบูรณาการ วันนี้ก็ไม่สามารถแก้ได้ ไม่อย่างนั้นไทยนิยมก็ลงไม่ได้ ไม่ได้ลงมาเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง วันหน้าไทยนิยมจะต้องอยู่ ไทยนิยมคืออะไร คือคนไทยใช่หรือไม่ คนไทยต้องไม่ทะเลาะกัน คนไทยต้องรักกัน นี่คือวิธีการบริหารราชการ ซึ่งคือวิธีการทำงานตามปกติในทุกส่วน ซึ่งเป็นการบริหารราชการจากบนลงล่าง และต้องขับเคลื่อนไปสู่ข้างล่างหรือประชารัฐ แต่บางโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลต้องการทำเพื่อขับเคลื่อนไปก่อน เพราะเป็นการสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้น แต่เราไม่สามารถหว่านได้ทุกอย่างเพราะไม่มีเงิน และมีหลายเรื่องที่ต้องพัฒนา 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำทุกอย่าง มีกฎหมายเร่งด่วนกว่า 300 ฉบับ ดำเนินการไปแล้วกว่า 100 ฉบับ ซึ่งทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่คนรวยไม่ติดคุก แต่คนจนติดคุก รัฐบาลนี้เข้ามาเจอแต่ปัญหา จึงต้องปลดล็อกในหลายๆ เรื่อง นำกฎหมายทุกอย่างมาทำให้ได้ โดยที่ส่วนรวมไม่เสียหาย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลกำลังสร้างสถาปัตยกรรมอาเซียนในเรื่องของความยากจน วันนี้โลกไปถึงไหนแล้ว แต่เรายังอยู่ในเรื่องประชาธิปไตยและการเมืองเป็นหลัก ต้องให้การเมืองเดินของการเมืองไป ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม อย่าเอามาตีกันหมด ทำให้เกิดความขัดแย้งที่หลากหลาย

“ผมก็เหน็ดเหนื่อยกับการเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ แทนที่จะมาคิดหาเงิน เอาภาษีมาทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหา ไม่ให้คนรายได้น้อยเดือดร้อน ผมไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อนซักคน โครงสร้างเป็นปัญหาของเรา ที่ผ่านมาอาจจะไม่ชัดเจน ไทยนิยมคือการทำให้ประชาชนในพื้นที่ยืนได้ด้วยตนเอง ทุกคนก็ต้องรู้มา 3 ปีครึ่งเกือบ 4 ปีแล้ว ปีละ 52 สัปดาห์ทุกวันศุกร์ รวมแล้วเกือบ 200 กว่าครั้ง นั่นคือหลักคิดของผมในการสร้างประเทศ อย่างไร ค่อยๆ มา ซึ่งจะสอดคล้องกับการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รายได้ทั้งหมดของรัฐซึ่งมาจากภาษีและการท่องเที่ยวทั้งหมดอยู่กับประชาชน อยู่กับเจ้าของกิจการ ไม่ได้อยู่กับรัฐ วันนี้ต้องนำรายได้เหล่านี้มาให้กับท้องถิ่น ซึ่งไม่สามารถเก็บกันเองได้ ในวันข้างหน้า ท้องถิ่นจะต้องมีรายได้ที่มากขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ต่างประเทศเดินทางมาลงทุนเป็นจำนวนมากเพราะบ้านเมืองสงบสุข เพราะใครเพราะพวกเราสงบสุข ซึ่งนักลงทุนบอกว่า ถ้าเป็นแบบเดิมก่อนปี 57 ก็จะไม่มาลงทุน แล้วนักลงทุนถามว่า เมื่อเลือกตั้งแล้วจะกลับไปที่เดิมหรือไม่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็ได้หันไปถามประชาชนว่าจะกลับไปที่เดิมหรือไม่ ประชาชนก็ตอบว่าไม่ นายกรัฐมนตรีพูดต่อว่า

“สัญญาแล้วนะ สัญญาไม่ใช่สายัณห์ อย่ากลับไปที่เดิมโดยเด็ดขาด เราจะต้องมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล อย่าเลือกเพราะรู้จัก แล้ววันหน้าถ้าพวกนี้ไม่ได้ พวกนั้นมา อีกพวกหนึ่งมาอีก ท่านก็ไม่ได้อะไรเหมือนเดิม ก็กลับไปกลับมาอยู่แบบนี้ ต้องเป็นอย่างรัฐบาลทุกวันนี้ ที่ไปได้ทุกพื้นที่ ไปทุกตารางนิ้วของประเทศไทยก็ไปได้ ไม่ใช่พรรคหนึ่งไปได้ พรรคหนึ่งไปไม่ได้ ไม่ใช่พรรคนี้ไปได้ พรรคโน้นไปไม่ได้ ต้องหารัฐบาลที่ไปได้ทุกพื้นที่ อยู่ที่เรา เราดีกับเขา เขาก็ดีกับเรา ไม่มีบุญคุณระหว่างกัน บุญคุณที่มีวันนี้ ผมทำของผม มันทำของท่านแล้วเกิดผลผลิตขึ้นมา แล้วจะเกิดบุญคุณตอบแทนแผ่นดิน ถึงเราจะจน ถึงเราจะยากไร้ รายได้น้อย แต่เรามีแผ่นดินที่เป็นอิสระให้ยืนทุกคนให้ตายให้ฝัง ให้ปลูกดิน นี่ประเทศไทยไม่ใช่ของใคร ไม่ใช่ของผม ของทุกคน ของปวงชนชาวไทย วันนี้ไม่ใช่การหาเสียง” พล.อประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปลูกพืชเชิงเดี่ยวว่า ชอบหรือไม่ปลูกข้าวแล้วได้ราคาเดียวกันหมด ข้าวจะต้องมีคุณภาพ ราคาต้องต่างกันหมด แต่ถ้าคิดว่าปลูกข้าวอะไรก็ได้ แล้วจะได้ราคาเดียวกัน น้ำไม่มีก็เสียหายไปหมด รัฐบาลก็เสียเงินอุดหนุนไปชดเชยอีก เป็นการเสียซ้ำเสียซ้อน แทนที่จะนำเงินมาสร้างในสิ่งที่ประชาชนร้องขอ ป่านนี้ทำทางด่วนได้ 7 ชั้นแล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันหน้าถ้าเรามีรัฐบาลที่คิดละเอียดว่าจะทำอย่างไร ซึ่งตนจะถามในเดือนมิถุนายน ซึ่งเขาบอกว่าจะไม่มาตอบผม กลัวผมจะรู้หรือไง ก็เขาจะมาพูดให้ท่านฟัง รัฐบาลหรือใครที่จะมาเลือกตั้ง อย่าไปฟังเฉพาะตอนที่เขาหาเสียง ไม่เอา ผมต้องการสร้างการเรียนรู้ตรงนี้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image