เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เปิดเผยกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์พร้อมเชิญชวนประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องให้นักกฎหมายดู ส่วนตัวไม่รู้ เขาก็มีสิทธิในการที่รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะเราไปบังคับใครไม่ได้ ส่วนจะผิดกฎหมายหรือไม่นั้น น่าจะผิด แต่ต้องถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะรู้ดีเรื่องกฎหมาย ตนไม่ใช่นักกฎหมายจึงไม่รู้ ทั้งนี้ตนไม่ห่วง เพราะบอกแล้วว่าใครเห็นด้วยก็ลงคะแนนว่าเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วยก็ลงไม่เห็นด้วย ขึ้นอยู่กับว่าฐานของประชาชนเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ไม่แน่ พรรคการเมืองไม่เห็นด้วยแต่ประชาชนอาจเห็นด้วยก็ได้ มันยังไม่เกิด ไม่มีใครรู้อนาคตทั้งนั้น และเรื่องดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เพราะเป็นความเห็น ไม่ใช่เรื่องความมั่นคง
เมื่อถามว่ามีการประเมินความเสี่ยงในช่วงเวลาก่อนการประชามติอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี ตนให้ลงไปดูแลในพื้นที่อยู่แล้ว เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง ต้องการให้เกิดเพียงประชามติอย่างเดียว ไม่ต้องห่วง ชอบให้ตีกันอยู่เรื่อย ตีกันมันตายนะ ตีกันเองไม่ไหวหรอก ตอนนี้รัฐธรรมนูญออกมาแล้ว แจกรัฐธรรมนูญไปทั้งหมดแล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว พูดไปก็เท่านั้น”
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดหลักสูตรอบรมนักการเมืองเห็นต่าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เลขานุการ คสช.เป็นคนดำเนินการ เพราะเขามีหลักสูตรอยู่แล้ว รวมทั้งดูเรื่องของสถานที่ด้วย เมื่อแล้วเสร็จสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพราะมีอำนาจในการเชิญบุคคลอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดจะไปเรียกเข้ามาอบรมได้อย่างไร ก็ต้องดูด้วย และถ้าเลือกได้ตนคงเลือกสื่อมาก่อน ทั้งนี้หากเรียกไปพูดคุยแล้วเข้าใจง่ายเพียงชั่วโมงก็สามารถออกมาได้ ตนไม่ห่วงว่าการเปิดหลักสูตรดังกล่าวจะกระทบกับภาพลักษณ์ของ คสช. เพราะ คสช.มีความเรียบร้อย เบื้องหลังทุกคนเป็นคนดีทั้งนั้น ถามว่าคนที่เราอบรมเขาเป็นคนดีหรือไม่ มีเบื้องหลังเป็นอย่างไรที่ทำให้เกิดความเดือดร้อน ต้องมาเปรียบเทียบดูกัน และคนที่จะเรียกมาพูดคุยนั้นก็เฉพาะที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ คงไม่ไปเรียกคน 60-70 ล้านคนมาปรับทัศนคติ
