“ณัฐวุฒิ” ยกคำ “มีชัย” บอก “ประชาธิปไตยไม่ใช่การทำให้ปชช.เป็นใหญ่ แต่ประโยชน์ของปชช.จึงเป็นใหญ่” เป็นวรรคทองของกรธ.ที่จะใช้แจงปชช.
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. กล่าวว่า แม้สถานการณ์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญจะเต็มไปด้วยข้อจำกัดต่อฝ่ายไม่รับร่าง ทั้งการประกาศควบคุมตัวเข้าค่ายอบรม การออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ให้เจ้าหน้าที่ทหารจับกุม สอบสวน ตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมาย ไม่จำกัดเวลา และควบคุมตัวบุคคลได้ หรือพ.ร.บ.ประชามติซึ่งมากด้วยความสุ่มเสี่ยงต่อการรณรงค์ของฝ่ายเห็นต่าง แต่ภายใต้ข้อเท็จจริงว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ติดตามเนื้อหารัฐธรรมนูญโดยละเอียด การแสดงเหตุผลและข้อเท็จจริงยังเป็นสิ่งที่ต้องทำ เช่น การที่นายมีชัยกล่าวอ้างว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นตามคำกล่าวของท่านพุทธทาสภิกขุว่า “ประชาธิปไตยไม่ใช่การทำให้ประชาชนเป็นใหญ่ แต่ประโยชน์ของประชาชนจึงเป็นใหญ่” ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจเป็นวรรคทองของกรธ.ที่จะใช้อธิบายกับประชาชนในเวทีต่างๆ
“ผมไม่ทราบบริบทของคำพูดดังกล่าว แต่เชื่อว่าความหมายของท่านพุทธทาสคงไม่ได้ต้องการแยกทั้ง 2 คำออกจากกัน เพราะประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกระหว่างประชาชนเป็นใหญ่กับประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ แต่ 2 ประโยคนี้ต้องอยู่ด้วยกันและเกี่ยวเนื่องกัน อย่างที่อับราฮัม ลินคอร์น ให้นิยามอมตะว่า การปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน นั่นหมายความว่าอำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน คือประชาชนเป็นใหญ่ก่อน แล้วจึงใช้อำนาจนั้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ถ้าบอกว่าต้องยึดประโยชน์ประชาชนโดยไม่ต้องเป็นใหญ่ ก็เท่ากับมีอำนาจอื่นมาคิดและตัดสินให้ รูปแบบนี้จะเป็นอำนาจนิยมซึ่งมีภาพสะท้อนหลายประเด็นในร่างนี้ ทั้งนี้ ตนไม่มีเจตนาเปิดฉากวิวาทะกับกรธ.หรือใครก็ตาม แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาหลักการจึงต้องแสดงความเห็นไว้ให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ