เปิดปูม’เสี่ยคราม’เพื่อนซี้’บิ๊กป้อม’ เจ้าของนาฬิกาหรู

คำสัมภาษณ์ล่าสุดของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา สะท้อนถึงความอึดอัดและท้อใจที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อกล่าวหาว่า ไม่ยื่นชี้่แจงบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งเป็นนาฬิกาหรู 25 เรือน

จนเป็นที่มาของวลีทางการเมืองว่า “แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน”

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ย้ำยืนยันถึงการครอบครองนาฬิกาหรูทั้ง 25 เรือนที่เพื่อนให้ยืมมาใส่ว่า “ผมขอย้ำถึงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องดังกล่าว ส่วนใครจะคิดอย่างไรตามกระแสก็คิดไป เพราะความจริงคือความจริง ไม่มีวันหนีไปจากความจริงได้ ผมไม่เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะขอรอดูต่อไปว่าสังคมจะมองเรื่องที่เกิดตามกระแสมากกว่าข้อมูล ข้อเท็จจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ผมอาจพลาดที่ไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจตั้งแต่ต้น เพราะคิดว่าไม่มีอะไร จึงทำให้สังคมเข้าใจอะไรที่คลาดเคลื่อนมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขอย้ำว่าผมพร้อมยอมรับกับคำตัดสินของ ป.ปช.ไม่ว่าจะมีผลออกมาเป็นอย่างไร”

“ผมไม่ได้โง่ ผมรับราชการมานาน เป็นรัฐมนตรีมากี่สมัยแล้ว ทำไมจะไม่รู้เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่เพราะเป็นนาฬิกาของเพื่อนที่ผมยืมเวียนมาใช้ เขามี 200-300 เรือน เป็นเศรษฐีหมื่นล้านและชอบสะสมนาฬิกา ก็แค่นั้น ผมยืมมาจริงๆ มันน่าน้อยใจไหม ผมเป็นแค่เหยื่อของกระเเสจากฝ่ายตรงข้ามที่หยิบยกมาโจมตีเพื่อเตะขาท่านนายกฯ” พล.อ.ประวิตรยืนยันถึงที่มาการครอบครองนาฬิกาหรูอีกครั้ง

Advertisement

ที่มาที่ไปของนาฬิกาหรูทั้ง 25 เรือน ที่เพื่อนสนิท พล.อ.ประวิตรให้ยืมมาใส่นั้น เพื่อนสนิทคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน

เขาคือ “เสี่ยคราม” หรือ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ อดีตผู้บริหารองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และผู้บริหาร “คอม-ลิงค์” บริษัทที่เคยวางระบบเคเบิลใยแก้วให้องค์การโทรศัพท์ฯ

เป็นเพื่อนรักร่วมรุ่นโรงเรียนเซนต์คาเบรียลของ พล.อ.ประวิตรนั่นเอง

Advertisement

แม้วันนี้ นายปัฐวาทจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนรักที่รู้ใจ พล.อ.ประวิตรไปเสียทุกเรื่อง คงไม่มีวันเสื่อมคลายไปได้

ทั้งนี้ “เสี่ยคราม” เป็นเพื่อนซี้ พล.อ.ประวิตร เรียนร่วมกันมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล อีกทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนมาพร้อมกับ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 1 อีกด้วย จึงเป็นที่มาของ “เซนต์คาเบรียล คอนเน็กชั่น”

“เสี่ยคราม” ยังมีชื่อเป็นคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่มี พล.อ.ประวิตรเป็นประธานมูลนิธิ รวมทั้งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานกิตติมศักดิ์อีกด้วย จนเป็นขาประจำบ้าน ร.1 รอ. ของ พล.อ.ประวิตร ที่มาทุกเที่ยงวัน หาก พล.อ.ประวิตรเข้ามาทานข้าวกลางวันที่มูลนิธิป่ารอยต่อ

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนายปัฐวาทกับ พล.อ.ประวิตร แม้จะเรียนจบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ โดย พล.อ.ประวิตรนั้นเลือกเส้นทางการเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ ขณะที่นายปัฐวาทเลือกที่จะเข้าสู่แวดวงการเป็นนักธุรกิจ

นายปัฐวาทกลายเป็นเพื่อนของ พล.อ.ประวิตรในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 และ จปร.17 และ วปอ.

เรียกได้ว่า ไม่ว่าใครเป็นเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร ก็จะสนิทสนมกับ “เสี่ยคราม” ไปด้วย จึงไม่มีลูกน้องหรือเพื่อน พล.อ.ประวิตรคนไหนที่ไม่รู้จักนายปัฐวาท

ไม่แค่นั้น ครอบครัวสุขศรีวงศ์ และวงษ์สุวรรณ ก็สนิทสนมใกล้ชิดกันมายาวนาน

ที่สำคัญ พล.อ.ประวิตร และนายปัฐวาท เป็นคนมีรสนิยมเหมือนกัน คือ ชอบเดินสายทำบุญ สร้างวัด สร้างโบสถ์ รวมทั้งไปทอดกฐินด้วยกัน จึงไม่แปลกที่ไม่ว่า พล.อ.ประวิตรไปทำบุญที่ไหน ก็จะมียอดทำบุญนับล้านบาท อีกทั้งนายปัฐวาทยังเป็นศิษย์เอกของอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหร คมช. ที่ พล.อ.ประวิตรเคารพนับถือด้วยกัน

ยิ่งในช่วงที่นายปัฐวาทมีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย จนเกือบจะเดินไม่ได้ พล.อ.ประวิตรได้ช่วยพาไปหาหมอเก่งๆ ในทุกๆ ด้านด้วยตนเอง จนอาการดีขึ้น กระทั่งวาระสุดท้าย
นายปัฐวาทเสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560

คนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตรระบุว่า “บิ๊กป้อม” เสียใจมาก และไปร่วมงานศพเกือบทุกวัน ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร และเป็นประธานในวันพระราชทานเพลิงศพด้วย
เป็นข้อมูลบางส่วนถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเพื่อนซี้ปึ้กระหว่าง “บิ๊กป้อม” กับ “เสี่ยคราม” อันเป็นที่มาของปมปัญหานาฬิกาหรูที่ พล.อ.ประวิตรแจกแจงว่าเป็นของเพื่อนซี้ผู้นี้ที่ให้ยืมมาใส่

แต่จะฟังขึ้นหรือไม่ ต้องรอคำตอบจาก ป.ป.ช.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image