เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า จากที่มีข้าราชการท้องถิ่น สังกัด อปท. แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. เมื่อปี 2558 เรื่องการจัดซื้อรถดูดโคลน ราคา 17 ล้านบาท ที่ส่อไปในทางทุจริต และ ปปป. ได้มีการสอบสวนการจัดซื้อจัดจ้างของ อปท. แห่งนั้น จนมีการขยายผลตรวจสอบการจัดซื้อรถดูดโคลน และพบการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างในอีกหลายพื้นที่ โดย ปปป. ได้มีการตรวจสอบใน 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การกำหนดราคากลางที่สูงกว่าราคาต้นทุนการผลิตกว่าเท่าตัว ซึ่งทาง ปปป. ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ราคาสูงกว่าต้นทุนการผลิต โดยกรมการค้าภายในได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาต้นทุนการผลิตจากโรงงานของรถดูดโคลนราคาคันละ 7 ล้านบาท บวกกำไรและภาษีที่ตัวแทนจำหน่ายนำมาขายอยู่ที่ประมาณคันละ 11-12 ล้านบาท สำหรับประเด็นที่สอง คือ บริษัทผู้เข้าร่วมประกวดราคามีการสมยอมกันในการเสนอราคาทำให้ไม่เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ที่ว่ามีเพียงไม่กี่บริษัทเข้าเสนอราคารถดูดโคลนให้ อปท. ทั่วประเทศ ซึ่งมีลักษณะเป็นการสมยอมกันในการเสนอราคา ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
อธิบดีกล่าวต่อว่า ในส่วนของ ปปป. นั้น ได้มีการตรวจสอบการฮั้วประมูลใน อปท. ไปแล้ว 2 ล็อต โดยล็อตแรกเป็นลักษณะการล็อคสเป๊ค รวม 21 อปท. และได้ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไปแล้ว 20 อปท. เหลืออีก 1 อปท. ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยต่อมา ปปป. ได้มีการตรวจสอบ อปท. ที่ได้มีการจัดซื้อรถดูดโคลนเพิ่มอีกจำนวน 12 แห่ง ใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรสาคร พิษณุโลก ระยอง ศรีสะเกษ เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี สมุทรปราการ และนนทบุรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน โดย กรมฯ จะดำเนินการแจ้งทุกจังหวัด ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ว่ามี อปท. ใดที่อาจจะมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตเช่นนี้อีกหรือไม่ และหากพบการทุจริต จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทั้งทางแพ่ง อาญา และทางวินัยอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาดต่อไป
