‘เสรี’ ชี้ ชงญัตติ บิ๊กตู่นั่งนายกฯต่อ ไม่เหมาะ แต่ญัตติให้ส.ว.โหวตนายกฯได้ เหมาะสม

“เสรี” แย้งสมาชิกสปท.ชงคำถาม “บิ๊กตู่” นั่งเก้าอี้ต่อวีซ่า ชี้ ไม่เหมาะสม ดันสุดตัวให้ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวถึงข้อเสนอการตั้งคำถามพ่วงการทำประชามติเรื่องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปในช่วงเปลี่ยนผ่านว่า ในการประชุมสปท.การเมืองครั้งที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาเรื่องการตั้งคำถามพ่วงประชามติ มีสปท.การเมืองบางคนเสนอคำถามดังกล่าวมาจริง แต่คงเป็นไปไม่ได้ และไม่เหมาะสมเพราะจะกลายเป็นเรื่องของตัวบุคคล อาจถูกมองเป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจได้ โดยการประชุมสปท.วันที่ 1 เมษายน เพื่อพิจารณาเรื่องการตั้งคำถามพ่วงประชามติของ สปท. เท่าที่ทราบคำถามสำคัญๆ ที่จะมีการเสนอญัตติตั้งคำถามประชามติต่อที่ประชุม 2 เรื่องคือ 1.ควรให้รัฐสภาคือ ส.ส.และส.ว.มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จะเสนอโดยนายวันชัย สอนศิริ สปท.การเมือง 2.ควรให้มีคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติ ภายหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งต้องดูเพิ่มเติมว่า ในวันดังกล่าวจะมีสมาชิก สปท.เสนอคำถามพ่วงการทำประชามติในประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ต้องดูว่า ที่ประชุม สปท.จะเห็นชอบให้ใช้คำถามประชามติใด เพื่อส่งให้ สนช.พิจารณาตัดสินในขั้นสุดท้าย

นายเสรี กล่าวต่อว่า เท่าที่ดูเห็นว่า การตั้งคำถามพ่วงประชามติให้รัฐสภาคือ ส.ส.และส.ว.มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดูมีความเหมาะสม เพื่อเป็นการแก้วิกฤตของประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งสปท.การเมืองหลายคนเห็นด้วยกับคำถามดังกล่าว และ สปท.สายอื่นๆ ก็ไม่ขัดข้อง เป็นการนำประเด็นข้อห่วงใยช่วงเปลี่ยนผ่านไปให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ใช่ทำเพื่อสืบทอดอำนาจให้ใคร เพราะไม่ใช่ประเด็นที่ระบุถึงตัวบุคคล แต่พูดถึงหลักการ ทั้งนี้หากประชาชนเห็นด้วยกับคำถามพ่วงประชามติเรื่องให้รัฐสภามีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ต้องไปแก้ไขเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญให้ ส.ว.มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะไม่ได้แก้ไขหลักการในเนื้อหาหลักของร่างรัฐธรรมนูญ จะแก้ไขแค่บทเฉพาะกาล ซึ่งคงใช้เวลาแก้ไขไม่นาน