เหตุปัจจัยอะไรทำให้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ตัดสินใจยื่นใบลาออก จากราชการทันที่ที่ทราบว่า
ถูกย้ายออกจากตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงการคลัง”
ไปดำรงตำแหน่งเป็น “เลขาธิการ”สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นได้จากข่าวที่เผยแพร่ผ่านไลน์
“ขอบคุณผู้สื่อข่าวที่ช่วยประคับประคองผมมาตลอดชีวิตราช การ โดยตัดสินใจยื่นใบลาออกจากราชการเป็นที่เรียบร้อย เป็นประชาชนเต็มขั้นแล้ว”
เรื่องนี้หากฟังจากแถลงของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะเข้าใจ
แม้เป็น”แถลง”ที่ไม่ได้”เจตนา”ก็ตาม
ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าการย้าย นายปรเมธี วิมลศิริ ไปดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงพม.
และนำเอา นายสมชัย สัจจพงษ์ มาแทนที่ที่สศช.
เป็นความรับผิดชอบของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ในฐานะที่กำกับดูแลงานของสศช.
จึงระบุว่า นายปรเมธี วิมลศิริ จะเข้าใจ
“จะปรับจากการดูแลข้าราชการสศช. 500 คนไปดูแลข้าราช การพม.ซึ่งมีกว่า 10,000 คน เป็นเรื่องท้าทายการทำงานของ นาย ปรเมธี วิมลศิริ ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี”
เป็นเรื่องที่ดีต่อ นายปรเมธี วิมลศิริ อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน การย้าย นายสมชัย สัจจพงษ์ ซึ่งเคยดูแลข้า ราชการกระทรวงการคลังอันเป็นกระทรวงที่ใหญ่กว่าพม.หลายเท่ามาเป็นเลขาธิการสศช.ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ นายสมชัย สัจจพงษ์
เพราะเท่ากับย้ายจากกระทรวง”หลายหมื่นคน”มาดูแลข้าราชการ”500 คน”
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม(สศช.)มีบทบาทและความสำคัญอย่างแน่นอน
แต่เป็นเรื่องในทาง “วิชาการ”
ขณะที่การดำรงอยู่ในตำแหน่ง”ปลัดกระทรวงการคลัง”ก็มีบทบาทและความสำคัญอย่างเด่นชัด
ตรงนี้เองที่ทำให้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ต้องตัดสินใจ”ลาออก”
